ทางออกจากเขาวงกต
เกริ่นนำ
เมื่ออายุ 18 ปี บิลลี่ โนแลนได้หนีออกจากเรือสินค้า เขาติดเหล้าเป็นเวลา 35 ปี ตลอดเวลา 20 ปี เขานั่งขอทานและดื่มเหล้าอยู่หน้าคริสตจักรโฮลี่ ทรินิตี้ บรอมพ์ตัน ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1990 เขามองตัวเองในกระจก และพูดว่า ‘นายไม่ใช่บิลลี่ โนแลนที่ฉันเคยรู้จัก’ เขาทูลขอให้พระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิตด้วยคำพูดของตัวเอง และทำสัญญากับพระองค์ว่าเขาจะไม่ดื่มเหล้าอีกเลย จากวันนั้นเป็นต้นไปเขาไม่ดื่มเหล้าสักหยดเดียว ชีวิตของเขาถูกเปลี่ยนแปลงใหม่ เขาฉายแสงแห่งความรักและความชื่นชมยินดีของพระคริสต์ ผมเคยพูดกับเขาว่า ‘บิลลี่ คุณดูมีความสุขนะ’ เขาตอบกลับว่า 'ผมมีความสุขเพราะว่าผมเป็นอิสระ ชีวิตเป็นเหมือนเขาวงกต และสุดท้ายผมได้พบทางออกผ่านทางพระเยซูคริสต์’
เซนต์ออกัสตินเขียนว่าพระเจ้าทรงเป็นองค์จอมเจ้านาย ซึ่ง ‘การรับใช้พระองค์คือเสรีภาพที่สมบูรณ์แบบ' นี่เป็นข้อความที่ขัดแย้งกันอย่างยิ่ง หลายคนคิดว่าการรับใช้พระเจ้าจะทำให้พวกเขาสูญเสียอิสรภาพไป แต่แท้จริงแล้วมันตรงกันข้าม การมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเราเองนั้นเป็นรูปแบบหนึ่งของการเป็นทาส การรับใช้พระเจ้าใน ‘แบบใหม่ตามพระวิญญาณ’ (โรม 7:6) เป็นวิธีที่จะพบกับเสรีภาพที่สมบูรณ์แบบ คุณสามารถมีสัมพันธภาพกับพระองค์ และเป็นคนในแบบที่เคยคิดไว้ในใจลึกๆ
สดุดี 88:1-9ก
คำอธิษฐานขอความช่วยเหลือในยามท้อแท้
บทเพลงสดุดีของตระกูลโคราห์ ถึงหัวหน้านักร้อง ตามทำนองมาหะลัทเลอันโนท
มัสคิลบทหนึ่งของเฮมาน ตระกูลเอศราค
1ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งความรอดของข้าพระองค์
กลางวันข้าพระองค์ร้องทูล กลางคืนก็อยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์
2ขอคำอธิษฐานของข้าพระองค์มาอยู่เฉพาะพระพักตร์ของพระองค์
ขอเงี่ยพระกรรณฟังเสียงร้องทูลของข้าพระองค์
3เพราะจิตใจของข้าพระองค์ลำบากเต็มที
และชีวิตของข้าพระองค์เข้าใกล้แดนคนตาย
4ข้าพระองค์ถูกนับเข้ากับบรรดาผู้ที่ลงไปยังหลุมมรณา
ข้าพระองค์เป็นเหมือนชายที่ไม่มีกำลัง
5เหมือนคนที่เขาทิ้งไว้ท่ามกลางคนตาย
เหมือนคนถูกฆ่าที่นอนอยู่ในหลุมศพ
ที่พระองค์มิได้ทรงระลึกถึงอีก
เพราะเขาทั้งหลายถูกพรากจากพระหัตถ์ของพระองค์
6พระองค์ทรงวางข้าพระองค์ไว้ที่ก้นบึ้งของหลุมมรณา
ในแดนที่มืดและลึก
7พระพิโรธของพระองค์อยู่บนข้าพระองค์
และพระองค์ทรงโถมทับข้าพระองค์ด้วยคลื่นใหญ่ทั้งสิ้นของพระองค์
8พระองค์ทรงให้เพื่อนสนิทของข้าพระองค์เหินห่างจากข้าพระองค์
พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์เป็นที่รังเกียจแก่เขาทั้งหลาย
ข้าพระองค์ถูกขัง ข้าพระองค์จึงออกไปไม่ได้
9ดวงตาของข้าพระองค์มัวไปเพราะความทุกข์
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์ทุกวัน
ข้าพระองค์ชูมือต่อพระองค์
อรรถาธิบาย
ร้องทูลต่อพระเจ้า
สดุดีบทนี้บรรยายถึงสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับของบิลลี่ โนแลน ‘ข้าพระองค์ติดอยู่ในเขาวงกต และไม่พบทางออก ถูกบังตาด้วยความเจ็บปวดและความขุ่นเคืองใจ’ (ข้อ 8, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ผู้เขียนสดุดีกำลังผ่านความทุกข์ยากอย่างสาหัส ‘เพราะจิตใจของข้าพระองค์ลำบากเต็มที’ (ข้อ 3ก) เขาคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย ‘ข้าพระองค์ตั้งค่ายอยู่ที่ขอบของนรก... เป็นกรงที่ไร้ทางออก ถูกปล่อยทิ้งไว้เหมือนกับว่าตายแล้ว’ (ข้อ 3-5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาอยู่ใน ‘ก้นบึ้งของหลุมมรณา’ (ข้อ 6) ‘ไม่มีกำลัง’ (ข้อ 4) ‘ถูกขัง…จึงออกไปไม่ได้’ (ข้อ 8) และสูญเสียการสนับสนุนจากเพื่อนสนิทของเขา (ข้อ 8)
พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถช่วยเราได้ ‘พระเจ้า พระองค์ทรงเป็นโอกาสสุดท้ายของข้าพระองค์’ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ไม่ว่าสถานการณ์ของคุณจะเลวร้ายเพียงใด จงร้องขออิสรภาพต่อพระเจ้า
คำอธิษฐาน
‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งความรอดของข้าพระองค์ กลางวันข้าพระองค์ร้องทูล กลางคืนก็อยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ ขอคำอธิษฐานของข้าพระองค์มาอยู่เฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ ขอเงี่ยพระกรรณฟังเสียงร้องทูลของข้าพระองค์’ (ข้อ 1-2)
โรม 6:15-7:16
ทาสของความชอบธรรม
15ถ้าเช่นนั้นจะว่าอย่างไร? เราจะทำบาปเพราะไม่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ แต่อยู่ใต้พระคุณอย่างนั้นหรือ? เปล่าเลย 16พวกท่านไม่รู้หรือว่าถ้าท่านยอมตัวรับใช้เชื่อฟังใคร ท่านก็เป็นทาสของผู้ที่ท่านเชื่อฟังนั้น คือเป็นทาสของบาปซึ่งนำไปสู่ความตาย หรือเป็นทาสของการเชื่อฟังซึ่งนำไปสู่ความชอบธรรม? 17แต่จงขอบพระคุณพระเจ้า เพราะว่าท่านเคยเป็นทาสของบาป แต่บัดนี้มีใจเชื่อฟังหลักคำสอนนั้นซึ่งท่านได้รับมา 18เมื่อท่านทั้งหลายพ้นจากบาปแล้ว ท่านก็ได้เป็นทาสของความชอบธรรม 19ข้าพเจ้ายกเอาตัวอย่างมนุษย์มาพูด เนื่องจากเนื้อหนังของท่านอ่อนกำลัง เพราะท่านเคยยกอวัยวะของท่านเป็นทาสของการโสโครกและของการบาปซ้อนบาปอย่างไร บัดนี้จงยกอวัยวะของท่านเป็นทาสของความชอบธรรม เพื่อการชำระให้บริสุทธิ์อย่างนั้น
20เมื่อพวกท่านเป็นทาสของบาป ความชอบธรรมก็ไม่ได้ครอบครองท่าน 21ขณะนั้นท่านได้ประโยชน์อะไรจากสิ่งเหล่านั้น ซึ่งบัดนี้ทำให้รู้สึกละอาย? ด้วยว่าผลสุดท้ายของมันก็คือความตาย 22แต่เดี๋ยวนี้พวกท่านพ้นจากการเป็นทาสของบาป และกลับมาเป็นทาสของพระเจ้าแล้ว ผลสนองที่ท่านได้รับก็คือการชำระให้บริสุทธิ์ และผลสุดท้ายคือชีวิตนิรันดร์ 23เพราะว่าค่าจ้างของบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
โรม 7
ยกเรื่องการแต่งงานมาเป็นข้อเปรียบเทียบ
1พี่น้องทั้งหลาย ท่านไม่รู้หรือ (ข้าพเจ้าพูดกับคนที่รู้ธรรมบัญญัติแล้ว) ว่าธรรมบัญญัตินั้นมีอำนาจเหนือบุคคลก็เฉพาะในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่เท่านั้น? 2เหมือนสตรีที่แต่งงานแล้วต้องอยู่ในกฎประเพณีการสมรสตราบที่สามียังมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าสามีถึงแก่กรรม นางก็พ้นจากกฎนั้น 3ฉะนั้น ถ้าหญิงนั้นไปเป็นของชายอื่นในเมื่อสามียังมีชีวิตอยู่ นางก็ได้ชื่อว่าเป็นหญิงล่วงประเวณี แต่ถ้าสามีตายแล้ว นางก็พ้นจากกฎประเพณีการสมรส แม้จะไปเป็นของชายอื่นก็ไม่ผิดประเวณี
4เช่นนั้นแหละ พี่น้องทั้งหลาย ท่านได้ตายจากธรรมบัญญัติทางพระกายของพระคริสต์ เพื่อท่านจะเป็นของผู้อื่น คือของพระองค์ผู้ที่พระเจ้าทรงให้เป็นขึ้นมาจากตายแล้ว เพื่อเราจะได้เกิดผลถวายแด่พระเจ้า 5เมื่อเราดำเนินชีวิตในเนื้อหนัง ตัณหาชั่วที่ธรรมบัญญัติเร้าให้เกิดขึ้นนั้น ได้ทำให้อวัยวะของเราก่อผลซึ่งนำไปสู่ความตาย 6แต่เดี๋ยวนี้เราได้พ้นจากธรรมบัญญัติ คือได้ตายจากธรรมบัญญัติที่เคยผูกมัดเราไว้ เพื่อจะได้เป็นทาสแบบใหม่ตามพระวิญญาณ ไม่ใช่แบบเก่าตามตัวอักษร
ปัญหาเรื่องบาปที่ฝังอยู่ในตัว
7ถ้าอย่างนั้นเราจะว่าอย่างไร? จะว่าธรรมบัญญัติคือบาปหรือ? เปล่าเลย แต่ว่าถ้าไม่มีธรรมบัญญัติแล้ว ข้าพเจ้าก็คงไม่รู้จักบาป เพราะว่าถ้าธรรมบัญญัติไม่ได้ห้ามว่า “ห้ามโลภ” ข้าพเจ้าก็คงไม่รู้ว่าอะไรคือความโลภ 8แต่ว่าบาปได้ฉวยโอกาสใช้ข้อบัญญัตินั้น ทำให้ความโลภทุกอย่างเกิดขึ้นในตัวข้าพเจ้า เพราะว่าถ้าไม่มีธรรมบัญญัติ บาปเป็นสิ่งที่ตายแล้ว 9เมื่อก่อนข้าพเจ้าดำรงชีวิตอยู่นอกเหนือธรรมบัญญัติ แต่เมื่อบัญญัตินั้นมา บาปก็กลับมีชีวิต 10และข้าพเจ้าก็ตาย บัญญัติซึ่งมีไว้เพื่อชีวิต ข้าพเจ้าพบว่านำไปสู่ความตาย 11เพราะว่าบาปได้ฉวยโอกาสใช้บัญญัตินั้นล่อลวง และประหารข้าพเจ้าให้ตาย 12เพราะฉะนั้น ธรรมบัญญัติจึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และบัญญัตินั้นก็ศักดิ์สิทธิ์ ยุติธรรมและดีงาม
13ถ้าเช่นนั้น สิ่งที่ดีกลับทำให้ข้าพเจ้าต้องตายหรือ? เปล่าเลย บาปต่างหาก คือบาปซึ่งอาศัยสิ่งที่ดีนั้นทำให้ข้าพเจ้าต้องตาย เพื่อจะให้ปรากฏว่าบาปนั้นเป็นบาปจริง และโดยอาศัยพระบัญญัตินั้น บาปก็ปรากฏว่าชั่วร้ายยิ่งนัก 14เรารู้ว่าธรรมบัญญัตินั้นเป็นเรื่องฝ่ายจิตวิญญาณ แต่ว่าข้าพเจ้าเป็นเนื้อหนังถูกขายเป็นทาสให้อยู่ใต้บาป 15ข้าพเจ้าไม่เข้าใจการกระทำของข้าพเจ้าเอง เพราะว่าข้าพเจ้าไม่ทำสิ่งที่ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะทำ แต่กลับทำสิ่งที่ข้าพเจ้าเกลียดชังนั้น 16ถ้าข้าพเจ้าทำสิ่งที่ไม่ปรารถนาจะทำ ขณะที่ยอมรับว่าธรรมบัญญัตินั้นดี
อรรถาธิบาย
รับใช้พระเจ้า
มีตัวการ์ตูนที่ชื่อว่า รถไฟโทมัส เป็นภาพที่โทมัสตกลงข้างหลังจากการตกรางรถไฟ เขาตะโกนว่า ‘ฉันเป็นอิสระแล้ว! สุดท้ายฉันก็เป็นอิสระ ฉันตกรางและเป็นไทแล้ว!’ แน่นอน ในความเป็นจริงคือโทมัสมี ‘อิสระ’ มากกว่าเมื่อล้อของเขาอยู่บนราง และเขาได้ปฏิบัติหน้าที่ตามแบบที่ถูกสร้างมา
พวกเราก็เช่นเดียวกัน เราอาจจินตนาการว่าตัวเองจะมีอิสระขึ้นถ้าไม่มีใครมาบอกเราว่าต้องทำอะไรนอกจากตัวเราเอง แต่นั่นเป็นความเชื่อที่ผิดเพราะเรากลับพบว่าตัวเองเป็นทาสของความบาป ซึ่งนำไปสู่ ‘ทางตัน’ (ข้อ 6:21, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
มีประโยคหนึ่งบอกว่า ‘การออกกำลังกายเดียวที่คนบางคนทำคือการด่วนสรุป’ อัครสาวกเปาโลเป็นกังวลว่าผู้อ่านของเขาจะด่วนสรุป เช่น บางคนอาจโต้แย้งว่าไม่สำคัญถ้าเราจะทำบาปต่อไป อาจารย์เปาโลเขียนว่า ‘ถ้าเช่นนั้นจะว่าอย่างไร? เราจะทำบาปเพราะไม่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ แต่อยู่ใต้พระคุณอย่างนั้นหรือ? เปล่าเลย’ (ข้อ 6:15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
การรับรองของการยกโทษนั้นไม่ใช่ข้ออ้างให้ทำบาปต่อไป
พระคุณไม่ใช่ ‘ข้อยกเว้น’ ให้ทำบาปได้ การดำเนินอยู่ในบาปเป็นสิ่งที่ไร้สติเพราะ 2 เหตุผลนี้:
1. องค์จอมเจ้านายคนใหม่
ในฐานะคริสเตียน คุณมีเจ้านายองค์ใหม่ คุณกำลังรับใช้พระเจ้า ผู้ซึ่ง ‘บัญญัติของพระองค์ปลดปล่อยท่านเป็นอิสระที่จะใช้ชีวิตในเสรีภาพของพระองค์’ (ข้อ 17, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ เราทุกคนเป็นทาสของบางสิ่งบางอย่าง ความบาปเป็นรูปแบบหนึ่งของการเป็นทาส ซึ่งนำมาแต่การจองจำในฝ่ายวิญญาณและความตาย แต่การรับใช้พระเจ้านำเสรีภาพที่สมบูรณ์มา ‘ของประทานจากพระเจ้า คือ ชีวิตที่แท้จริง ชีวิตนิรันดร์ ซึ่งพระเยซูเป็นผู้ประทาน’ (โรม 6:23. พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พระเจ้าคือองค์จอมเจ้านายองค์ใหม่ของคุณ ทุกครั้งที่คุณล้มลงต่อบาป คุณกำลังต่อต้านวัตถุประสงค์ของพระคุณ นั่นคือการให้ชีวิตกับคุณ เป็นชีวิตที่แท้จริงและนิรันดร์ เมื่อคุณถูกทดลอง ขอให้จำไว้ว่าคุณไม่ต้องยอมแพ้ เพราะคุณไม่ใช่ทาสของบาปอีกต่อไป คุณสามารถอิสระที่เอ่ยออกมาว่า ‘ไม่’
ให้เราระลึกถึงบำเหน็จแห่งการเชื่อฟัง ในการรับใช้พระเจ้า ‘ผลสนองที่ท่านได้รับก็คือการชำระให้บริสุทธิ์ และผลสุดท้ายคือชีวิตนิรันดร์’ (ข้อ 22)
2. ความรักใหม่
มันเป็นการโง่เขลาที่จะทำบาปต่อไปเรื่อย ๆ เพราะว่านอกจากเราจะมีองค์จอมเจ้านายองค์ใหม่แล้ว เรายังได้รักใหม่อีกด้วย
อาจารย์เปาโลพูดถึงอีกแง่มุมหนึ่งของชีวิตสมรสเพื่อจะสะท้อนสิ่งนี้ออกมา ผู้หญิงคนหนึ่งจะเป็นไทจากกฎของการสมรสเมื่อสามีของเธอเสียชีวิต ความตายนั้นปลดปล่อยเราจากกฎบัญญัติ (ข้อ 7:1-6)
เช่นเดียวกัน เราในฐานะคริสเตียนได้ตายต่อกฎบัญญัติ ซึ่งเป็นรักเก่าของเรา ‘เราไม่ได้ผูกมัดกับคู่ครองแห่งบาปอีกต่อไป’ (ข้อ 6 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ตอนนี้คุณสามารถผูกพันกับรักใหม่ คือองค์พระเยซู เสมือนหญิงที่สามีเสียชีวิตสามารถจะแต่งงานกับคนรักใหม่ของเธอ (ข้อ 4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ตอนนี้คุณมีชีวิตอยู่ภายใต้พระคุณแทนกฎบัญญัติ คุณมีพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ภายใน ผู้ซึ่งเติมเต็มคุณด้วยความปรารถนา และความสามารถที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง โดยเชื่อมต่อติดกับองค์พระเยซู ผู้เป็นรักใหม่ของเรา คุณรับใช้ 'เพื่อจะได้เป็นทาสแบบใหม่ตามพระวิญญาณ ไม่ใช่แบบเก่าตามตัวอักษร’ (ข้อ 6) พระเยซูทรงปลดปล่อยคุณเป็นอิสระ ให้คุณเป็นคนที่ปรารถนาอยากจะเป็นในส่วนลึก นี่คือเสรีภาพที่แท้จริง
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่การรับใช้พระองค์คือเสรีภาพที่แท้จริง วันนี้ข้าพระองค์ขอถวายร่างกายทั้งหมดให้เป็นทาสของความชอบธรรม (ข้อ 6:19) วันนี้ข้าพระองค์อยากจะรับใช้พระองค์ องค์เจ้านาย ผู้ที่ข้าพระองค์รัก ในเส้นทางของพระวิญญาณ
โฮเชยา 3:1-5:15
ความมั่นใจในความรักของพระเจ้า
1และพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงไปอีกครั้ง ไปรักกับหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รักของชู้และเป็นหญิงล่วงประเวณี เหมือนที่พระยาห์เวห์ทรงรักพงศ์พันธุ์อิสราเอลอย่างนั้นแหละ แม้พวกเขาจะหันไปหาพระอื่น และชมชอบขนมลูกเกด” 2ดังนั้นข้าพเจ้าจึงได้ซื้อนางมาด้วยเงิน 15 เชเขลและข้าวบาร์เลย์ 150 กิโลกรัม3ข้าพเจ้าบอกนางว่า “เธอต้องอยู่กับฉันอีกนาน อย่าเล่นชู้ อย่าไปเป็นของชายอื่น ส่วนฉันก็จะไม่เข้าหาเธอด้วย” 4เพราะพงศ์พันธุ์อิสราเอลจะคงอยู่อย่างไม่มีกษัตริย์และไม่มีเจ้านายเป็นเวลานาน ทั้งจะไม่มีการสักการบูชา ไม่มีเสาศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีเอโฟดและรูปเคารพ 5ภายหลังพงศ์พันธุ์อิสราเอลจะกลับมา และแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา และแสวงหาดาวิดกษัตริย์ของเขา และในกาลภายหน้าเขาจะยำเกรงพระยาห์เวห์และความดีของพระองค์
โฮเชยา 4
พระเจ้าทรงกล่าวโทษอิสราเอล
1โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอล จงฟังพระวจนะของพระยาห์เวห์
เพราะพระยาห์เวห์ทรงมีคดีกับชาวแผ่นดินนั้น
เพราะในแผ่นดินนั้น ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต
ความเมตตา หรือการรู้จักพระเจ้า
2มีแต่การสบถสาบาน การโกหก การฆ่าคน การลักขโมยและการล่วงประเวณี
สิ่งเหล่านี้แพร่ไปทั่ว มีการฆาตกรรมซ้อนการฆาตกรรม
3เพราะฉะนั้น แผ่นดินจึงเศร้าโศก
บรรดาคนที่อยู่ในแผ่นดินนั้นก็อ่อนใจ
ทั้งสัตว์ในป่า
และนกบนฟ้า
แม้แต่ปลาในทะเลก็จะสูญไป
4แต่อย่าให้ผู้ใดกล่าวโทษ
อย่าให้ผู้ใดฟ้องร้อง
เพราะประชาชนของเจ้าเป็นเหมือนผู้กล่าวโทษปุโรหิต
5เวลากลางวันเจ้าจะสะดุด
และผู้เผยพระวจนะจะสะดุดกับเจ้าในเวลากลางคืน
และเราจะทำลายมารดาของเจ้า
6ประชากรของเราถูกทำลายเพราะขาดความรู้
เพราะเจ้าเองปฏิเสธความรู้
เราก็ปฏิเสธเจ้าไม่ให้เป็นปุโรหิตของเรา
เพราะเจ้าลืมธรรมบัญญัติแห่งพระเจ้าของเจ้า
เราเองก็จะลืมพงศ์พันธุ์ของเจ้าด้วย
7พวกเขาทวีมากขึ้นเท่าใด
ก็ทำบาปต่อเรามากขึ้นเท่านั้น
เราจะให้ศักดิ์ศรีของเขากลายเป็นความอับอาย
8เขาเลี้ยงชีพด้วยบาปแห่งประชากรของเรา
เขาชื่นชอบความผิดของคนเหล่านั้น
9ปุโรหิตเป็นอย่างไร ประชาชนก็จะเป็นอย่างนั้น
เราจะลงโทษเขาเนื่องด้วยวิธีการของเขา
เราจะตอบแทนเขาตามการกระทำของเขา
10เขาจะรับประทาน แต่ไม่รู้จักอิ่มหนำ
เขาจะเล่นชู้ แต่ไม่เกิดผลดก
เพราะเขาได้ทอดทิ้งพระยาห์เวห์
เพื่อจะปล่อยตัวเล่นชู้
อิสราเอลเล่นชู้
11เหล้าองุ่นเก่าและเหล้าองุ่นใหม่
ชิงเอาความเข้าใจไปเสีย
12ประชากรของเราไปขอความเห็นจากสิ่งที่ทำด้วยไม้
และไม้ติ้วก็ให้คำพยากรณ์แก่เขา
เพราะวิญญาณแห่งการเล่นชู้นำให้เขาหลงไป
และเขาทั้งหลายได้ละทิ้งพระเจ้าของเขาเพื่อไปเล่นชู้
13เขาถวายสัตวบูชาบนยอดภูเขา
และเผาเครื่องบูชาบนเนินเขา
ใต้ต้นโอ๊กคือ ต้นกำยาน และต้นก่อหลวง
เพราะว่าร่มไม้เหล่านี้เย็นดี
เพราะฉะนั้นบรรดาบุตรีของเจ้าจึงเล่นชู้
และบรรดาบุตรสะใภ้ของเจ้าจึงล่วงประเวณี
14เมื่อบุตรีของเจ้าเล่นชู้ เราก็ไม่ลงโทษ
หรือเมื่อบุตรสะใภ้ของเจ้าล่วงประเวณี เราก็ไม่ลงทัณฑ์
เพราะผู้ชายเองก็ปลีกตัวไปกับหญิงแพศยา
และถวายสัตวบูชากับเทวทาสีหญิงผู้ร่วมประเวณีในพิธีศาสนา
ดังนั้นชนชาติที่ไม่มีความเข้าใจจะมาถึงความพินาศ
15โอ อิสราเอลเอ๋ย ถึงเจ้าเองเล่นชู้
ก็อย่าให้ยูดาห์มีความผิด
อย่าเข้าไปในเมืองกิลกาล
อย่าขึ้นไปยังเบธาเวน
และอย่าสาบานว่า “พระยาห์เวห์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด”
16อิสราเอลนั้นดื้อดึง
เหมือนวัวสาวที่ดื้อดึง
พระยาห์เวห์จะทรงเลี้ยงเขา
อย่างเลี้ยงแกะที่ทุ่งกว้างได้หรือ?
17เอฟราอิมก็ผูกพันอยู่กับรูปเคารพแล้ว
ปล่อยเขาไปเถิด
18เมื่อเขาเมาแล้ว ก็ปล่อยตัวเล่นชู้เต็มที่
เขารักความอับอายยิ่งกว่าศักดิ์ศรีของตน
19ลมพายุเอาปีกห่อเขาไว้
เขาจะอดสูเพราะเครื่องสัตวบูชาของเขา
โฮเชยา 5
###การพิพากษาอิสราเอลและยูดาห์กำลังจะเกิดขึ้น
1โอ ปุโรหิตทั้งหลาย จงฟังข้อนี้
โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย จงสดับ
โอ ราชวงศ์กษัตริย์ จงเงี่ยหูฟัง
เพราะเจ้าทั้งหลายจะถูกพิพากษา
เพราะเจ้าเป็นกับดักที่เมืองมิสปาห์
และเป็นข่ายกางอยู่เหนือเมืองทาโบร์
2พวกกบฏหมกมุ่นอยู่กับการสังหารหมู่
แต่เราเองจะเป็นผู้ตีสอนเขาทั้งหมด
3เราเองรู้จักเอฟราอิม
และอิสราเอลก็มิได้ปิดซ่อนไว้จากเรา
โอ เอฟราอิมเอ๋ย บัดนี้เจ้าเล่นชู้ อิสราเอลก็เป็นมลทิน
4การกระทำของเขาไม่ยอมให้เขากลับไปยังพระเจ้าของเขา
เพราะวิญญาณแห่งการเล่นชู้อยู่ในตัวเขา
เขาจึงไม่รู้จักพระยาห์เวห์
5ความเย่อหยิ่งของอิสราเอลก็ปรากฏเป็นพยานที่หน้าเขาแล้ว
อิสราเอลและเอฟราอิมจะสะดุดในความผิดของตน
ยูดาห์ก็สะดุดไปกับเขาทั้งหลายด้วย
6เขาจะไปหาพระยาห์เวห์
ด้วยนำเอาฝูงแพะแกะฝูงโคไป
แต่เขาจะหาพระองค์ไม่พบ
พระองค์ทรงจากเขาไปแล้ว
7เขาได้ทรยศต่อพระยาห์เวห์
เพราะเขาให้กำเนิดลูกนอกสมรส
บัดนี้ วันขึ้นค่ำจะผลาญเขาเสียพร้อมกับไร่นาของเขา
8จงเป่าเขาสัตว์ในกิเบอาห์
จงเป่าแตรในรามาห์
จงร้องตะโกนที่เบธาเวน
โอ เบนยามินเอ๋ย จงมองไปข้างหลังเจ้า
9ในวันที่ลงโทษนั้น
เอฟราอิมจะร้างเปล่า
เราประกาศสิ่งที่เป็นจริง
ท่ามกลางเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล
10เจ้านายของยูดาห์ได้กลายเป็นเหมือนคนที่ย้ายหลักเขต
เราจะเทความกริ้วของเราเหนือเขาเหมือนอย่างเทน้ำ
11เอฟราอิมถูกบีบบังคับ และถูกขยี้ด้วยการทำโทษ
เพราะเขาตั้งใจติดตาม
12เพราะฉะนั้นเราเองจะเป็นเหมือนตัวแมลงแก่เอฟราอิม
และเป็นเหมือนการผุพังแก่พงศ์พันธุ์ยูดาห์
13เมื่อเอฟราอิมเห็นความเจ็บป่วยของตน
และยูดาห์เห็นบาดแผลของตน
เอฟราอิมก็ไปหาอัสซีเรีย
และส่งคนไปหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่นั้น
แต่ท่านก็ไม่สามารถจะรักษาเจ้า
หรือรักษาบาดแผลของเจ้าได้
14เพราะเราจะเป็นเหมือนสิงห์ต่อเอฟราอิม
และเป็นเหมือนสิงห์หนุ่มต่อพงศ์พันธุ์ของยูดาห์
เรา คือเรานี่แหละ จะฉีกแล้วก็ไปเสีย
เราจะลากเอาไป และใครจะช่วยก็ไม่ได้
15เราจะกลับมายังสถานที่ของเราอีก
จนกว่าเขาจะยอมรับความผิดของเขาและแสวงหาหน้าของเรา
เมื่อเขารับความทุกข์ร้อน เขาจะแสวงหาเรา
อรรถาธิบาย
แสวงหาเสรีภาพของพระเจ้า
บางคนนั้นมองว่าบาปเป็นแนวคิดที่ยาก แต่ ‘การรักบางอย่างมากเกินไป' (รูปเคารพ) เป็นเรื่องที่พวกเราส่วนใหญ่เข้าใจได้ รักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราคือการรับใช้และการนมัสการ
ข้อพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมสะท้อนหลักการที่อาจารย์เปาโลอธิบายอย่างละเอียดในพระธรรมโรม ว่าคนที่ทำบาปนั้นเป็นทาสของบาปและชีวิตของพวกเขาติดอยู่ในเขาวงกต
พระเจ้าทรงรักประชากรของพระองค์ (3:1) ผู้เผยพระวจนะโฮเชยาถูกเรียกให้แสดงถึงภาพนี้ผ่านความรักที่เขามีต่อภรรยา ถึงแม้ว่าเธอจะเคยล่วงประเวณี ‘จงรักนางในแบบนี้เรา องค์พระเจ้า รักอิสราเอล แม้ว่าเธอจะเกี้ยวพาราสีและรื่นเริงกับพระทุกองค์ที่เธอชมชอบ’ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
โฮเชยากล่าวถ้อยคำของพระเจ้าว่า ‘เพราะในแผ่นดินนั้น ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต ความเมตตา หรือการรู้จักพระเจ้ามีแต่การสบถสาบาน การโกหก การฆ่าคน การลักขโมยและการล่วงประเวณี’ (4:1-2) ประชาชนมีความผิดเพราะการล่วงประเวณีและการเป็นชู้ (ข้อ 4:13ข,15,5:3) เป็นคำบรรยายที่ค่อนข้างตรงกับสังคมหลายที่ในปัจจุบัน
พวกผู้นำไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีเลย ‘พวกเขาทวีมากขึ้นเท่าใด ก็ทำบาปต่อเรามากขึ้นเท่านั้น เราจะให้ศักดิ์ศรีของเขากลายเป็นความอับอาย เขาเลี้ยงชีพด้วยบาปแห่งประชากรของเรา เขาชื่นชอบความผิดของคนเหล่านั้น ปุโรหิตเป็นอย่างไร ประชาชนก็จะเป็นอย่างนั้น’ (ข้อ 4:7-9ก)
แทนที่จะพบกับเสรีภาพผ่านความบาปของเขา พวกเขากลับไม่พึงพอใจและกลายเป็นทาส เป็นผลพวงของบาปของพวกเขา ‘พวกเขาจะกินและยังหิวโหยเหมือนเดิม มีเพศสัมพันธ์แต่ไม่พึงพอใจ เหล้าองุ่นและวิสกี้ทำให้ประชากรของเรามึนเมา...เมื่อมัวเมาในเรื่องเพศ พวกเขาไม่พบหนทางกลับบ้าน พวกเขาแทนที่องค์พระเจ้าด้วยอวัยวะสืบพันธุ์ของเขาเอง’ (ข้อ 10-12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พวกเขาเสพติดกับรูปเคารพ... เมื่อเบียร์หมดฤทธิ์แล้ว ก็มีแต่เซ็กส์ไม่รู้จบ’ (ข้อ 17-18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พวกเขาพบว่าตัวเองไม่อาจหันกลับมาหาพระเจ้า ‘การกระทำของเขาไม่ยอมให้เขากลับไปยังพระเจ้าของเขา’ (ข้อ 5:4ก) การล่วงประเวณีและการเล่นชู้แพร่กระจายท่ามกลางประชาชน (14:13ข,15, 5:3) ราวกับว่าพวกเขาตกอยู่ภายใต้อำนาจของวิญญาณชั่ว ‘เพราะวิญญาณแห่งการเล่นชู้อยู่ในตัวเขา เขาจึงไม่รู้จักพระยาห์เวห์’ (ข้อ 4ข) ‘พระองค์ทรงจากเขาไปแล้ว’ (ข้อ 6)
การถอนตัวของพระเจ้าก็เพื่อให้ประชาชนกลับมาหาพระองค์ ทางกลับคือโดยการยอมรับถึงความผิดบาปและแสวงหาพระพักตร์ของพระเจ้า ‘เมื่อเขารับความทุกข์ร้อน เขาจะแสวงหาเรา’ (ข้อ 15ข)
‘แล้วเราจะแสวงหาพระเจ้าอย่างไร?’ จอยซ์ ไมเยอร์เขียนดังนี้ ‘ทางหนึ่งคือโดยนึกถึงพระองค์ ว่าสิ่งใดมีค่าสำหรับพระองค์และสิ่งใดที่พระองค์ตรัสเกี่ยวกับสถานการณ์นั้น ๆ เมื่อเราแสวงหาพระองค์ เราจะรู้มากขึ้นเกี่ยวกับคำตอบของพระองค์สำหรับปัญหาของเรา เราจะพบความชื่นชมยินดี สันติสุข ความรัก สติปัญญา และทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตของเราเช่นกัน ฉันขอกระตุ้นที่วันนี้คุณจะแสวงหาพระองค์ในทุกๆ ด้านของชีวิต’
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์แสวงหาพระองค์ในวันนี้ ข้าพระองค์นำปัญหาทั้งหมดที่เผชิญอยู่มาที่พระองค์... โปรดสำแดงให้เห็นว่าพระองค์ประสงค์ให้ข้าพระองค์ทำอย่างไร โปรดประทานสติปัญญาและช่วยข้าพระองค์ให้พบกับเสรีภาพที่สมบูรณ์แบบในการรับใช้พระองค์ด้วยสุดหัวใจ
เพิ่มเติมโดยพิพพา
โรม 6:23ข
‘...แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา’
ฉันพบว่าการซื้อของขวัญให้คนเป็นสิ่งที่กดดัน ฉันมักจะรู้สึกท่วมท้นเพราะความมีเมตตา ความใจกว้าง และความใส่ใจของผู้อื่นเมื่อฉันได้รับของขวัญ ของขวัญจากพระเจ้าสำหรับเรานั้นอัศจรรย์กว่านั้นมากนั้นคือชีวิตนิรันดร์! ของขวัญนี้จะไม่มีวันเก่า เสื่อมสภาพ หรือถูกลืมเลย มันคือของขวัญที่มีค่าที่สุด ซึ่งต้องใช้การเสียสละยิ่งใหญ่ในการได้มา สิ่งนี้จะคงอยู่นิรันดร์ และสมบูรณ์แบบในทุกทาง
App
Download The Bible with Nicky and Pippa Gumbel app for iOS or Android devices and read along each day.
อีเมล
Sign up now to receive The Bible with Nicky and Pippa Gumbel in your inbox each morning. You’ll get one email each day.
เว็บไซต์
Subscribe and listen to The Bible with Nicky and Pippa Gumbel delivered to your favourite podcast app everyday.
การอ้างอิง
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)