วัน 239

พระ​ราช​กิจ​อัน​มี​พระ​คุณ​ของพระเจ้า

ปัญญานิพนธ์ สดุดี 103:1-12
พันธสัญญาใหม่ 2 โครินธ์ 1:1-11
พันธสัญญาเดิม 2 พงศาวดาร 26:1-28:27

เกริ่นนำ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ผมได้ค้นพบไดอารี่คำอธิษฐานของผมที่บันทึกประสบการณ์ช่วงแรก ๆ ที่พระเจ้าตอบคำอธิษฐาน

เมื่อวันที่ 26 กันยายน ปี 1976 ผมได้เขียนคำอธิษฐานเผื่อแม่ของผมว่า ‘อธิษฐานขอให้พระเจ้ารักษาอาการนอนไม่หลับของเธอ’ (ผมไม่ได้บอกแม่ว่าผมกำลังอธิษฐานเผื่อเธอ) สามเดือนต่อมาในวันที่ 26 ธันวาคม ปี 1976 ผมเขียนสิ่งที่แม่บอกกับผมว่า ‘เธอนอนหลับได้ดีขึ้นในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งดีกว่าตลอดระยะเวลาสี่ปีมานี้ และตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาการนอนไม่หลับแล้ว’

แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะพิสูจน์ความเป็นคริสเตียนโดยอาศัยเรื่องที่พระเจ้าตอบคำอธิษฐาน เพราะคนที่ชอบโต้แย้งสามารถอธิบายได้เสมอว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ แต่อย่างที่อดีตหัวหน้าบาทหลวงแห่งแคนเทอร์เบอรี วิลเลียม เทมเพิล กล่าวว่า 'เมื่อผมอธิษฐาน ความบังเอิญก็เกิดขึ้น เมื่อผมไม่ทำ ความบังเอิญก็ไม่เกิด’ ผลของการสะสมคำตอบของคำอธิษฐานคือการเสริมสร้างความเชื่อของเราในพระเจ้า

ตลอดยี่สิบห้าปีที่ผ่านมา ผมได้เขียนบทความประจำวันจากพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ และบางส่วนเป็นคำอธิษฐานสำหรับปีต่อ ๆ ไป เป็นเรื่องมหัศจรรย์เมื่อนึกย้อนกลับไปและระลึกถึงวิธีที่พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานเหล่านี้ ผมพบว่ามันง่ายมากที่จะลืมคำตอบของการอธิษฐาน มันช่างง่ายมากที่จะลืมสิ่งที่พระเจ้าอวยพร

ดาวิดเตือนตัวเองในบทเพลงสดุดีว่าอย่าลืม ‘พระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์’ (สดุดี 103:2) หลายคนตระหนักถึง ‘ผลประโยชน์’ ที่พวกเขาจะได้รับเมื่อพวกเขาได้รับการจ้างงานหรือสวัสดิการจากรัฐ แต่ ‘พระราชกิจอันมีพระคุณ’ ที่เราได้รับจากพระบิดาบนสวรรค์ผู้เปี่ยมด้วยความรักของเราล่ะ?

ปัญญานิพนธ์

สดุดี 103:1-12

คำขอบคุณพระเจ้า เพราะคุณความดีของพระองค์

ของดาวิด

1จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระยาห์เวห์
 และทั้งสิ้นที่อยู่ภายในข้า จงถวายสาธุการแด่พระนามบริสุทธิ์ของพระองค์
2จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระยาห์เวห์
 และอย่าลืมพระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์
3ผู้ทรงอภัยความชั่วทั้งสิ้นของเจ้า
 ผู้ทรงรักษาโรคทั้งสิ้นของเจ้า
4ผู้ทรงไถ่ชีวิตของเจ้ามาจากหลุมมรณะ
 ผู้ทรงสวมความรักมั่นคงและพระกรุณาให้เจ้า
5ผู้ทรงให้เจ้าอิ่มด้วยของดี ตลอดชีวิตของเจ้า
 วัยหนุ่มของเจ้าจึงกลับคืนมาใหม่อย่างวัยนกอินทรี
6พระยาห์เวห์ทรงกระทำการชอบธรรม
 และการยุติธรรมแก่ทุกคนที่ถูกบีบบังคับ
7พระองค์ทรงสำแดงพระมรรคาของพระองค์แก่โมเสส
 กิจการของพระองค์ แก่คนอิสราเอล
8พระยาห์เวห์ทรงพระกรุณาและมีพระคุณ
 กริ้วช้าและอุดมด้วยความรักมั่นคง
9พระองค์จะไม่ทรงตำหนิเสมอ
 หรือทรงเก็บความกริ้วไว้เป็นนิตย์
10พระองค์มิได้ทรงทำแก่เราตามบาปของเรา
 และมิได้ทรงตอบสนองเราตามความชั่วของเรา
11เพราะฟ้าสูงเหนือแผ่นดินเท่าใด
 ความรักมั่นคงของพระองค์ที่มีต่อบรรดาผู้ที่ยำเกรงพระองค์ก็ใหญ่ยิ่งเท่านั้น
12ตะวันออกไกลจากตะวันตกเท่าใด
 พระองค์ทรงปลดการละเมิดไปไกลจากเราเท่านั้น

อรรถาธิบาย

จดจำและขอบคุณพระเจ้า สำหรับพระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์

มีเรื่องมากมายที่จะสรรเสริญพระเจ้า หลายครั้งดาวิดพูดกับตัวเองและกำชับตัวเองว่า ‘จิต​ใจ​ของ​ข้า​เอ๋ย จง​ถวาย​สาธุ​การ​แด่​พระ​ยาห์​เวห์ และ​ทั้ง​สิ้น​ที่​อยู่​ภาย​ใน​ข้า จง​ถวาย​สาธุ​การ​แด่​พระ​นาม​บริ​สุทธิ์​ของ​พระ​องค์ จิต​ใจ​ของ​ข้า​เอ๋ย จง​ถวาย​สาธุ​การ​แด่​พระ​ยาห์​เวห์ และ​อย่า​หลงลืมแม้หนึ่งพระพร’ (ข้อ 1–2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เห็นได้ชัดว่าดาวิดประสบปัญหามากมายในชีวิต บาป โรคภัย และ ‘หลุมมรณะ’ (ข้อ 3-4) เช่นเดียวกับอัครสาวกเปาโล (2 โครินธ์ 1:3) เริ่มต้นด้วยการสรรเสริญสำหรับพระราชกิจอันมากมายของพระเจ้า

1. การให้อภัย
พระเจ้าให้อภัยบาปทั้งหมดของคุณ (สดุดี 103:3) ‘พระ​องค์​มิ​ได้​ทรง​ทำ​แก่​เรา​ตาม​บาป​ของ​เรา และ​มิ​ได้​ทรง​ตอบ​สนอง​เรา​ตาม​ความ​ชั่ว​ของ​เรา’ (ข้อ 10) ‘ตะวัน​ออก​ไกล​จาก​ตะวัน​ตก​เท่า​ใด พระ​องค์​ทรง​ปลด​การ​ละเมิด​ไป​ไกล​จาก​เรา​เท่า​นั้น’ (ข้อ 12)

2. การรักษา
พระเจ้าจะทรง ‘รักษาโรคภัยทั้งหมดของคุณ’ วันหนึ่งเราจะหายดี เราเห็นสัญญาณของสิ่งเหล่านี้เมื่อพระเจ้ารักษาเราโดยตรงและรักษาเหนือธรรมชาติ นอกจากนี้ พระเจ้าได้ใส่ระบบภูมิคุ้มกัน แอนติบอดี และกระบวนการซ่อมแซมในร่างกายของเรา

3. การไถ่
พระเจ้าทรง ‘ไถ่​ชีวิต​ของ​เจ้า​มา​จาก​หลุม​มรณะ’ (ข้อ 4ก) ไม่มีหลุมใดลึกจนการไถ่ของพระเจ้าไม่สามารถเข้าถึงได้

4. ความรัก
พระองค์ทรง ‘สวม​ความ​รัก​มั่น​คง​และ​พระ​กรุ​ณา​ให้​เจ้า’ (ข้อ 4ข) ‘เพราะว่าฟ้าสวรรค์สูงเหนือแผ่นดินเท่าใด ความรัก​มั่นคง​ของ​พระ​องค์​ที่​มี​ต่อ​บรร​ดา​ผู้​ที่​ยำ​เกรง​พระ​องค์​ก็​ใหญ่​ยิ่ง​เท่า​นั้น’ (ข้อ 11)

5. ความพึงพอใจ
พระองค์ทรง ‘ให้​เจ้า​อิ่ม​ด้วย​ของ​ดี’ (ข้อ 5ก)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์ สำหรับพระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์ สำหรับการให้อภัยและการรักษาของพระองค์ สำหรับการไถ่ข้าพระองค์ สำหรับการสวมความรักมั่นคง และพระกรุณาและสำหรับการที่ให้ข้าพระองค์อิ่มด้วยของดี

พันธสัญญาใหม่

2 โครินธ์ 1:1-11

การทักทาย

 1เปาโล ผู้เป็นอัครทูตของพระเยซูคริสต์ตามพระประสงค์ของพระเจ้า และน้องทิโมธี
 เรียน คริสตจักรของพระเจ้าที่เมืองโครินธ์ และธรรมิกชนทุกคนที่อยู่ทั่วแคว้นอาคายา
 2ขอพระคุณและสันติสุข ซึ่งมาจากพระเจ้าพระบิดาของเรา และจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า จงมีกับท่านทั้งหลายเถิด

เปาโลขอบพระคุณหลังจากได้รับความยากลำบาก

 3สาธุการแด่พระเจ้า พระบิดาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระบิดาผู้ทรงพระเมตตากรุณา พระเจ้าแห่งการหนุนใจทุกอย่าง 4พระองค์ผู้ทรงหนุนใจเราในความยากลำบากทั้งหมดของเรา เพื่อเราจะสามารถหนุนใจคนทั้งหลาย ที่มีความยากลำบากอย่างใดอย่างหนึ่งได้ด้วยการหนุนใจ ซึ่งเราเองได้รับจากพระเจ้า 5เพราะความรักของพระคริสต์มากท่วมท้นเราอย่างไร การหนุนใจของพระคริสต์ก็มากท่วมท้นเราอย่างนั้นข้อนี้ทั้งข้อ แปลได้อีกว่า เพราะเรามีส่วนในความทุกข์ของพระคริสต์มากมายเพียงไร การหนุนใจของเราโดยพระคริสต์ก็มากมายเพียงนั้น 6ที่เราทนความยากลำบากนั้น ก็เพื่อให้พวกท่านได้รับการหนุนใจและได้รับความรอด และที่เราได้รับการหนุนใจ ก็เพื่อให้พวกท่านได้รับการหนุนใจด้วย ซึ่งท่านจะได้รับเมื่อท่านสู้ทนความทุกข์เช่นเดียวกับที่เราทนอยู่นั้น 7และเราก็มีความหวังแน่นอนในท่านทั้งหลาย เพราะรู้ว่าพวกท่านมีส่วนในความทุกข์ของเราอย่างไร ท่านก็จะมีส่วนในการหนุนใจของเราอย่างนั้น
 8พี่น้องทั้งหลาย เราอยากให้พวกท่านรู้ถึงความยากลำบากที่เกิดกับเราในแคว้นเอเชีย คือเราเผชิญความทุกข์หนักอย่างยิ่งชนิดที่เกินกำลัง จนเราหมดหวังที่จะเอาชีวิตรอดมาได้ 9ที่จริงเรารู้สึกว่าถูกตัดสินให้ถึงที่ตายแล้ว ทั้งนี้เพื่อเราจะไม่ไว้ใจตัวเอง แต่ไว้ใจพระเจ้าผู้ทรงให้คนทั้งหลายเป็นขึ้นจากตาย 10พระองค์ทรงช่วยเราให้พ้นจากมรณภัยมาแล้ว และพระองค์จะทรงช่วยเราอีก เราหวังในพระองค์ว่าพระองค์จะทรงช่วยเราต่อไปอีก 11ในเมื่อพวกท่านก็มีส่วนช่วยโดยการทูลขอเผื่อเรา เพื่อคนจำนวนมากจะขอบพระคุณเพราะเรา เนื่องจากพระคุณที่ประทานแก่เราผ่านคำทูลขอของคนจำนวนมากนั้น

อรรถาธิบาย

เห็นพระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์แม้ในยามทุกข์ยาก

คุณเคยประสบกับความสูญเสียหรือความเศร้าโศกหรือไม่? คุณกำลังประสบปัญหาสุขภาพบางอย่างอยู่หรือไม่? คุณกำลังได้รับความกดดันอย่างมากในเรื่องการเงินหรือเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตของคุณอยู่หรือไม่? คุณกำลังถูกต่อต้านหรือโจมตีอยู่หรือไม่? คุณกำลังอยู่ในห้วงเวลาแห่งความยากลำบาก ความผิดหวัง หรือความทุกข์ยากอยู่หรือไม่?

เปาโลเป็นศิษยาภิบาลผู้ก่อตั้งคริสตจักรที่เมืองโครินธ์ ในจดหมายส่วนตัวนี้ ท่านได้เผยให้เห็นถึงหัวใจในฐานะผู้นำ ท่านเปิดเผยความรู้สึกของเขาในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่เข้าใจการเผชิญความยากลำบาก (ข้อ 4) ความทุกข์ยาก (ข้อ 5–8) เป็นทุกข์ (ข้อ 6) ความยากลำบาก (ข้อ 8) และความกดดัน (ข้อ 8) คำนี้ที่เปาโลใช้หมายถึงการเผชิญความทุกข์หนักอย่างชนิดที่เกินกำลัง

ท่านเผชิญความทุกข์ (ข้อ 8) เขารู้สึกถึงถูก ‘ตัดสินให้ถึงที่ตาย’ (ข้อ 9) เขาเผชิญ ‘มรณภัย’ (ข้อ 10) เช่นเดียวกับการกดขี่ข่มเหงทางร่างกาย ท่านต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์ การเยาะเย้ย ความเจ็บป่วย ความโศกเศร้า การสูญเสีย ความอยุติธรรม ความผิดหวัง การทดลอง และปัญหาความสัมพันธ์ส่วนตัว

เซอร์วินสตัน เชอร์ชิลล์ กล่าวว่า ‘ผู้มองโลกในแง่ร้ายมองเห็นความยากลำบากในทุกโอกาส คนมองโลกในแง่ดีมองเห็นโอกาสในทุกปัญหา’ โดยคำจำกัดความนี้เปาโลเป็นคนมองโลกในแง่ดีอย่างแน่นอน!

เปาโลเริ่มต้นจดหมายด้วยการสรรเสริญ ไม่ใช่เพื่อบอกถึงปัญหา แต่เพื่อบอกถึงพระราชกิจทั้งสิ้นที่ผ่านพ้นมา พระราชกิจทั้งสิ้นนี้คืออะไร? คุณและผมจะเห็นพระราชกิจเหล่านี้ในความยากลำบากได้อย่างไร?

1. คุณจะได้รับการปลอบประโลมใจ
‘พระเจ้า​แห่ง​การ​หนุนใจ​ทุก​อย่างพระ​องค์​ผู้​ทรง​หนุนใจ​เรา​ใน​ความ​ยาก​ลำบาก​ทั้ง​หมด​ของ​เรา’ (ข้อ 3–4) คำว่าหนุนใจ หมายถึง การเสริมกำลัง การให้กำลังใจ และอยู่เคียงข้าง พระเจ้าเป็น ‘พระบิดาผู้ทรงพระเมตตากรุณา’ (ข้อ 3) พระองค์ไม่ทรงห่างไกลจากความทุกข์ พระองค์ทรงอยู่เคียงข้างเราและทนทุกข์กับเรา พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์คือ ‘ผู้ปลอบโยน’ (ยอห์น 14:26, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

2. คุณจะได้ช่วยเหลือผู้อื่น
หากคุณอยู่ในช่วงเวลาของความทุกข์ยากตอนนี้ มันอาจจะดูไม่ค่อยสบายนัก แต่วันหนึ่ง คุณจะสามารถนำการหนุนใจมาสู่คนอื่น ๆ อย่างมากมาย ‘พระ​องค์​ผู้​ทรง​หนุนใจ​เรา​ใน​ความ​ยาก​ลำบาก​ทั้ง​หมด​ของ​เรา เพื่อ​เรา​จะ​สา​มารถ​หนุน​ใจ​คน​ทั้ง​หลาย ที่​มี​ความ​ยาก​ลำ​บาก​อย่าง​ใด​อย่าง​หนึ่ง​ได้​ด้วย​การ​หนุน​ใจ ซึ่ง​เรา​เอง​ได้​รับ​จาก​พระ​เจ้า’ (2 โครินธ์ 1:4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) คนที่เคยผ่านความทุกข์ยากลำบากในชีวิตต่างล้วนเป็นผู้รับใช้ที่มีผลต่อผู้อื่นอย่างมาก

3. คุณจะได้รับการเปลี่ยนแปลง
ความยากลำบาก ‘ซึ่งจะทำให้ท่านสู้ทนความทุกข์’ (ข้อ 6) เฉกเช่นทองคำที่หลอมด้วยไฟหรือเถาองุ่นถูกที่ตัดให้ออกเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ความยากลำบากนำให้เกิดความทรหดอนทน ความแน่วแน่ และความอุตสาหะซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิต

4. คุณจะไม่โดดเดี่ยว
เปาโลเขียนว่า ‘เพราะรู้​ว่า​พวก​ท่าน​มี​ส่วน​ใน​ความ​ทุกข์​ของ​เรา​อย่าง​ไร ท่าน​ก็​จะ​มี​ส่วน​ใน​การ​หนุนใจ​ของ​เรา​อย่าง​นั้น’ (ข้อ 7) คำว่า ‘มีส่วน’ มาจากคำภาษากรีกว่า koinonia ซึ่งเป็นคำที่ใช้อธิบายถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดที่สุด ในยามยากลำบาก เราควรสัมผัสได้ถึงความที่ใกล้ชิดในขณะที่เราปลอบโยนและหนุนใจกันและกัน ‘ช่วงเวลาที่ยากลำบากของคุณก็เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของเราเช่นกัน’ (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

5. คุณจะได้เรียนรู้ที่จะวางใจพระเจ้า
เมื่อทุกอย่างเป็นไปด้วยดีก็จะง่ายที่จะพึ่งพาตนเอง แต่เมื่อทุกอย่างผิดพลาดและอยู่เหนือการควบคุมของเรา เราถูกบังคับให้วางใจในพระเจ้า ดังที่อาจารย์เปาโลกล่าวไว้ว่า ‘แทนที่จะวางใจในกำลังหรือไหวพริบของเราเองเพื่อเอาตัวรอด เรากลับถูกบังคับให้วางใจพระเจ้าโดยสิ้นเชิง’ (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

6. คุณจะได้รับการช่วยเหลือ
เปาโลเขียนว่า 'พระ​องค์​ทรง​ช่วย​เรา​ให้​พ้น​จาก​มรณ​ภัย​มา​แล้ว และพระองค์จะทรงช่วยเราอีกเราหวัง​ใน​พระ​องค์​ว่า​พระ​องค์​จะ​ทรง​ช่วย​เรา​ต่อ​ไป​อีก’ (ข้อ 10) เมื่อคุณมองย้อนกลับไปและเห็นว่าพระเจ้าได้ทรงช่วยคุณในอดีตอย่างไร คุณสามารถมั่นใจได้ว่าพระองค์จะทรงช่วยคุณในอนาคต

7. คำอธิษฐานของคุณจะช่วยผู้อื่น
คำอธิษฐานนั้นมีพลัง พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานจริง ๆ วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งที่คุณสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ คือ การอธิษฐานเผื่อพวกเขา ‘ในเมื่อพวกท่านก็มีส่วนช่วยโดยการทูลขอเผื่อเรา เพื่อ​คน​จำ​นวน​มาก​จะ​ขอบ​พระ​คุณ​เพราะ​เรา เนื่อง​จาก​พระ​คุณ​ที่​ประ​ทาน​แก่​เราผ่าน​คำ​ทูล​ขอ​ของ​คน​จำ​นวน​มาก​นั้น’ (ข้อ 11) เมื่อคำอธิษฐานของคุณได้รับคำตอบ พระเจ้าย่อมได้รับเกียรติ

คำอธิษฐาน

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้เห็นพระพรในทุกความยากลำบาก ขอให้ข้าพระองค์ได้รับประสบการณ์การปลอบโยนและเรียนรู้ที่จะไม่พึ่งตนเองแต่พึ่งพาพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ร้องทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์...

พันธสัญญาเดิม

2 พงศาวดาร 26:1-28:27

การปกครองของอุสซียาห์

 1ประชาชนทั้งหมดของยูดาห์ก็ตั้งอุสซียาห์ ซึ่งมีพระชนมายุ 16 พรรษา ให้เป็นกษัตริย์แทนอามาซิยาห์พระราชบิดาของพระองค์ 2พระองค์ทรงสร้างเมืองเอโลทฉบับกรีกว่า เมืองเอลัทและให้กลับมาขึ้นกับยูดาห์ หลังจากที่พระราชาอามาซิยาห์ภาษาฮีบรูไม่มี อามาซิยาห์ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ 3เมื่ออุสซียาห์ทรงเป็นกษัตริย์นั้นมีพระชนมายุ 16 พรรษา และพระองค์ทรงครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 52 ปี พระราชมารดาของพระองค์มีพระนามว่าเยโคลียาห์ชาวเยรูซาเล็ม 4พระองค์ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ ตามทุกอย่างที่อามาซิยาห์พระราชบิดาของพระองค์ทรงกระทำ 5และพระองค์ทรงแสวงหาพระเจ้า ในช่วงชีวิตของเศคาริยาห์ผู้ซึ่งแนะนำพระองค์ในการเห็นฉบับกรีกว่า ในการยำเกรงพระเจ้า และตราบเท่าที่พระองค์ทรงแสวงหาพระยาห์เวห์ พระเจ้าทรงทำให้พระองค์เจริญขึ้น
 6พระองค์เสด็จออกไปต่อสู้กับคนฟีลิสเตีย และทรงพังกำแพงเมืองกัท กำแพงเมืองยับเนห์ และกำแพงเมืองอัชโดด แล้วพระองค์ทรงสร้างเมืองต่างๆ ในเขตแดนอัชโดด และในที่อื่นๆ ของคนฟีลิสเตีย 7พระเจ้าทรงช่วยพระองค์ในการต่อสู้กับคนฟีลิสเตีย และคนอาหรับ ที่อาศัยอยู่ในกูร์บาอัล ทั้งต่อสู้กับคนเมอูนี 8คนอัมโมนก็ถวายบรรณาการแก่อุสซียาห์ และพระนามของพระองค์ก็เลื่องลือไปถึงเขตแดนอียิปต์ เพราะพระองค์ทรงเข้มแข็งขึ้นเป็นอย่างยิ่ง 9ยิ่งกว่านั้นอุสซียาห์ทรงสร้างป้อมในกรุงเยรูซาเล็ม ที่ประตูมุม ที่ประตูหุบเขา และที่หัวเลี้ยว และป้องกันอย่างแข็งแรง 10และพระองค์ทรงสร้างป้อมต่างๆ ไว้ในถิ่นทุรกันดาร ทรงสกัดที่ขังน้ำขึ้นหลายๆ แห่ง เพราะพระองค์ทรงมีฝูงปศุสัตว์ที่ใหญ่โตอยู่ในบริเวณเนินเชเฟลาห์และในที่ราบ และทรงมีชาวนาและคนแต่งต้นองุ่นในเนินเขา และในดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ เพราะพระองค์ทรงรักการเกษตร 11ยิ่งกว่านั้นอีกอุสซียาห์ทรงมีนักรบที่สามารถออกศึกซึ่งออกไปเป็นกองๆ ตามจำนวนที่เยอีเอลราชเลขาและมาอาเสยาห์ เจ้าหน้าที่รวบรวมไว้ ภายใต้การควบคุมของฮานันยาห์ เจ้านายคนหนึ่งของพระราชา 12บรรดาหัวหน้าตระกูลของพวกนักรบกล้าหาญมีจำนวนทั้งหมด 2,600 คน 13และมีกองทัพ 307,500 คน ที่ทำศึกได้อย่างเข้มแข็ง ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาของคนเหล่านี้ เพื่อช่วยพระราชาต่อสู้ศัตรู 14และอุสซียาห์ทรงจัดเตรียมโล่ หอก หมวก เสื้อเกราะ ธนู และก้อนหินสำหรับสลิงให้ทั้งกองทัพ 15ในกรุงเยรูซาเล็มพระองค์ทรงทำเครื่องกลไกไว้บนป้อมและตามมุมโดยพวกช่างประดิษฐ์ เพื่อใช้ยิงลูกธนูและโยนก้อนหินใหญ่ๆ และพระนามของพระองค์ก็เลื่องลือไปไกล เพราะพระองค์ทรงได้รับความช่วยเหลืออย่างอัศจรรย์จนเข้มแข็ง

ความเย่อหยิ่งและการหลงจากทางพระเจ้า

 16แต่เมื่อทรงเข้มแข็งแล้ว พระองค์ก็มีพระทัยผยองขึ้นจนทำให้เสื่อมลง เพราะพระองค์ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ และทรงเข้าไปเผาเครื่องหอมบนแท่นบูชาในพระวิหารของพระยาห์เวห์ 17แต่อาซาริยาห์ปุโรหิตเข้าไปตามหลังพระองค์ พร้อมกับปุโรหิตของพระยาห์เวห์ที่กล้าหาญอีก 80 คน 18และเขาทั้งหลายขัดขวางกษัตริย์อุสซียาห์และทูลพระองค์ว่า “ข้าแต่อุสซียาห์ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่าพระบาทที่จะเผาเครื่องหอมถวายแด่พระยาห์เวห์ แต่เป็นหน้าที่ของปุโรหิตที่เป็นลูกหลานของอาโรน ผู้ซึ่งได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ไว้เพื่อเผาเครื่องหอม ขอฝ่าพระบาทเสด็จออกไปจากสถานนมัสการนี้ เพราะฝ่าพระบาททรงล่วงเกิน และฝ่าพระบาทจะไม่ได้รับเกียรติจากพระยาห์เวห์พระเจ้าเลย” 19แล้วอุสซียาห์ก็กริ้ว พระองค์ทรงมีกระถางไฟอยู่ในพระหัตถ์ที่จะเผาเครื่องหอม และเมื่อพระองค์กริ้วต่อพวกปุโรหิต โรคเรื้อนไม่ใช่โรคเรื้อนที่เข้าใจกันในปัจจุบัน แต่เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งก็เกิดขึ้นที่พระนลาฏคำราชาศัพท์หมายถึง หน้าผากต่อหน้าปุโรหิตในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ข้างแท่นเผาเครื่องหอม 20และอาซาริยาห์มหาปุโรหิต และปุโรหิตทั้งหลายมองดูพระองค์ และดูสิ พระองค์ทรงเป็นโรคเรื้อนที่พระนลาฏ พวกเขาก็เร่งเร้าพระองค์ให้ออกจากที่นั่น และพระองค์เองก็รีบเสด็จออกไป เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงลงโทษพระองค์ 21และกษัตริย์อุสซียาห์ก็ทรงเป็นโรคเรื้อนจนถึงวันสิ้นพระชนม์ และเมื่อทรงเป็นโรคเรื้อนก็ประทับในวังที่แยกไว้ต่างหาก เนื่องจากพระองค์ทรงถูกตัดออกจากพระนิเวศของพระยาห์เวห์ แล้วโยธามพระราชโอรสของพระองค์ทรงเป็นผู้ดูแลพระราชสำนักและปกครองประชาชนของแผ่นดิน
 22ส่วนพระราชกิจอื่นๆ ของอุสซียาห์ตั้งแต่ต้นจนจบนั้น อิสยาห์ผู้เผยพระวจนะบุตรอามอสได้บันทึกไว้ 23และอุสซียาห์ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ และพวกเขาก็ฝังพระศพไว้ใกล้ๆ กับบรรพบุรุษของพระองค์ในสุสานฝังศพที่เป็นของพระราชา เพราะพวกเขากล่าวว่า “พระองค์ทรงเป็นโรคเรื้อน” และโยธามพระราชโอรสของพระองค์ก็ทรงครองราชย์แทนพระองค์

2 พงศาวดาร 27

การปกครองของโยธาม

 1เมื่อโยธามทรงเป็นกษัตริย์นั้นมีพระชนมายุ 25 พรรษา และพระองค์ทรงครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 16 ปี พระมารดาของพระองค์มีพระนามว่าเยรูชาห์ บุตรหญิงของศาโดก 2และพระองค์ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ ตามทุกอย่างที่อุสซียาห์พระราชบิดาของพระองค์ทรงกระทำ เว้นแต่พระองค์ไม่ได้เข้าไปในพระวิหารของพระยาห์เวห์ แต่ประชาชนยังปฏิบัติในทางเสียหาย 3พระองค์ทรงสร้างประตูบนของพระนิเวศของพระยาห์เวห์ และทรงก่อสร้างมากมายที่กำแพงของเนินเขาโอเฟล 4ยิ่งกว่านั้นอีกพระองค์ทรงสร้างเมืองในถิ่นเทือกเขาแห่งยูดาห์ และสร้างป้อมกับหอคอยตามป่า 5และพระองค์ทรงสู้รบกับพระราชาของคนอัมโมนและทรงชนะ และในปีนั้นคนอัมโมนได้ถวายเงินหนัก 3,400 กิโลกรัมแด่พระองค์ และข้าวสาลี 1,000 ตันกับข้าวบาร์เลย์ 1,000 ตัน คนอัมโมนได้ถวายเท่ากันในปีที่สองและในปีที่สาม 6โยธามจึงทรงมีกำลังมากขึ้น เพราะพระองค์ทรงดำเนินอย่างมั่นคงเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ 7ส่วนพระราชกิจอื่นๆ ของโยธามและการสงครามทั้งหมดของพระองค์ ทั้งพระจริยาวัตรของพระองค์ ดูสิ ล้วนบันทึกไว้ในหนังสือพงศ์กษัตริย์แห่งอิสราเอลและยูดาห์ 8เมื่อพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์นั้นมีพระชนมายุ 25 พรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในเยรูซาเล็ม 16 ปี 9โยธามทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และพวกเขาฝังพระศพไว้ในนครดาวิด แล้วอาหัสพระราชโอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทนพระองค์

2 พงศาวดาร 28

การปกครองของอาหัส

 1อาหัสมีพระชนมายุ 20 พรรษาเมื่อทรงเป็นกษัตริย์ และทรงครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 16 ปี พระองค์ไม่ทรงทำสิ่งที่ชอบธรรมในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ และไม่เหมือนอย่างดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์ 2แต่ทรงดำเนินตามทางของพระราชาแห่งอิสราเอล รวมทั้งทรงหล่อรูปเคารพสำหรับพวกพระบาอัล 3และพระองค์ทรงเผาเครื่องหอมที่หุบเขาเบนฮินโนม และทรงเผาบรรดาพระราชโอรสของพระองค์เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ ตามการกระทำอันน่าเกลียดน่าชังของประชาชาติ ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงขับไล่ไปให้พ้นหน้าคนอิสราเอล 4อาหัสทรงถวายสัตวบูชาและทรงเผาเครื่องหอมที่ปูชนียสถานสูง และบนเนินเขา รวมทั้งใต้ต้นไม้เขียวสดทุกต้น

ซีเรียและอิสราเอลชนะยูดาห์

 5เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ จึงทรงมอบพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระราชาแห่งซีเรีย ซึ่งทรงชนะพระองค์และจับประชาชนจำนวนมากของพระองค์ไปเป็นเชลยที่กรุงดามัสกัส นอกจากนั้น อาหัสยังทรงถูกมอบไว้ในพระหัตถ์ของพระราชาแห่งอิสราเอล ซึ่งทรงชนะพระองค์ด้วยการฆ่าฟันอย่างมากมาย 6เพราะเปคาห์บุตรเรมาลิยาห์ฆ่าคน 120,000 คนในยูดาห์ภายในวันเดียว ซึ่งล้วนเป็นทหารกล้าทุกคน เพราะว่าเขาทั้งหลายละทิ้งพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา 7และศิครี นักรบของเอฟราอิมยังได้ฆ่ามาอาเสยาห์พระราชโอรสของพระราชาและอัสรีคัมอธิบดีกรมวังและเอลคานาห์มหาอุปราช

การขัดขวางของโอเดด

 8คนอิสราเอลจับคน 200,000 คนจากพี่น้องของตนไปเป็นเชลย ซึ่งมีทั้งที่เป็นผู้หญิงบุตรชายและบุตรหญิง และได้ของริบจำนวนมากจากพวกเขา แล้วนำของริบกลับไปยังกรุงสะมาเรีย 9แต่ผู้เผยพระวจนะของพระยาห์เวห์คนหนึ่งที่นั่นชื่อว่าโอเดดออกไปพบกองทัพซึ่งมายังสะมาเรีย และพูดกับพวกเขาว่า “นี่แน่ะ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านทั้งหลายทรงพระพิโรธยูดาห์ พระองค์จึงทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของท่าน แต่ท่านทั้งหลายฆ่าพวกเขาด้วยความโกรธแค้นซึ่งดังไปถึงฟ้าสวรรค์ 10และบัดนี้พวกท่านคิดจะบังคับประชาชนแห่งยูดาห์ และเยรูซาเล็มทั้งชายและหญิงให้เป็นทาสของท่าน แล้วพวกท่านเองจะไม่มีบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านหรือ? 11บัดนี้ขอฟังข้าพเจ้า ขอให้ส่งพวกเชลยซึ่งท่านจับมาจากพี่น้องของท่านกลับไป เพราะว่าพระพิโรธรุนแรงของพระยาห์เวห์อยู่เหนือท่านทั้งหลาย” 12และหัวหน้าบางคนของเอฟราอิม คือ อาซาริยาห์บุตรโยฮานัน เบเรคิยาห์บุตรเมซิลเลโมท เยฮิสคียาห์บุตรชัลลูม และอามาสาบุตรหัดลัย ยืนขึ้นคัดค้านพวกที่กลับจากการสู้รบ 13พูดกับเขาทั้งหลายว่า “พวกท่านอย่านำเชลยเข้ามาที่นี่ เพราะท่านตั้งใจจะนำการทำบาปต่อพระยาห์เวห์มายังเรา ให้เพิ่มเข้าไปกับบาปและความชั่วของเราในปัจจุบัน เพราะความชั่วของเราก็มีมากยิ่งอยู่แล้ว และพระพิโรธรุนแรงต่ออิสราเอลก็มีอยู่แล้ว” 14ดังนั้น พวกที่ถืออาวุธจึงละทิ้งเชลยและของริบต่อหน้าเจ้านายและชุมนุมชนทั้งหมด 15และบรรดาผู้ชายซึ่งถูกระบุชื่อก็มายังพวกเชลย และสวมเสื้อผ้าที่เอาจากกองของริบนั้นให้กับทุกคนที่เปลือยกาย เขาทั้งหลายก็สวมเสื้อผ้าให้พวกเชลย และยังสวมรองเท้าให้ จัดหาอาหารและเครื่องดื่มให้ รวมทั้งชโลมตัวพวกเขา แล้วนำบรรดาคนที่อ่อนเปลี้ย ในพวกเชลยขึ้นลากลับมายังพี่น้องของพวกเขาที่เมืองเยรีโค คือเมืองต้นอินทผลัม แล้วเขาทั้งหลายก็กลับไปยังกรุงสะมาเรีย

พวกอัสซีเรียไม่ช่วยเหลือยูดาห์

 16ในเวลานั้นกษัตริย์อาหัสทรงใช้คนไปหาพระราชาแห่งอัสซีเรียเพื่อขอความช่วยเหลือ 17เพราะคนเอโดมบุกรุกเข้ามา และโจมตียูดาห์ ทั้งจับคนไปเป็นเชลย 18และคนฟีลิสเตียเข้าปล้นเมืองต่างๆ ในบริเวณเนินเชเฟลาห์ และในภาคใต้ของยูดาห์ พวกเขายึดเมืองเบธเชเมช อัยยาโลน เกเดโรท โสโคกับบริเวณชนบท ทิมนาห์กับบริเวณชนบทและกิมโซกับบริเวณชนบท แล้วพวกเขาก็อาศัยอยู่ในที่เหล่านั้น 19เพราะพระยาห์เวห์ทรงทำให้ยูดาห์ตกต่ำลงเนื่องด้วยอาหัสพระราชาแห่งชาวอิสราเอล เพราะอาหัสทรงทำให้เกิดการหลงระเริงอยู่ในยูดาห์และทรงทำการไม่ซื่อสัตย์อย่างยิ่งต่อพระยาห์เวห์ 20ดังนั้นทิกลัทปิเลเสอร์พระราชาแห่งอัสซีเรียยกมาต่อสู้กับพระองค์ และทำให้พระองค์ทุกข์ยากแทนที่จะช่วยให้เข้มแข็ง 21เพราะอาหัสทรงยึดทรัพย์สินจากพระนิเวศของพระยาห์เวห์จากราชสำนักและจากบ้านเรือนของบรรดาเจ้านายเพื่อถวายแด่พระราชาของอัสซีเรีย แต่ก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อพระองค์เลย

อาหัสหลงจากทางของพระเจ้าและสิ้นพระชนม์

 22ในเวลาทุกข์ยาก กษัตริย์อาหัสองค์เดียวกันนี้ก็ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์มากยิ่งขึ้น 23เพราะพระองค์ทรงถวายสัตวบูชาแก่พระของกรุงดามัสกัส ซึ่งทำให้พระองค์พ่ายแพ้โดยตรัสว่า “เพราะว่าพระของพระราชาแห่งซีเรียช่วยพวกเขา เราจะถวายสัตวบูชาแก่พระเหล่านั้นเพื่อให้ช่วยเรา” แต่พระเหล่านั้นกลับเป็นสิ่งที่ทำลายพระองค์และอิสราเอลในที่นี้ใช้ในความหมายของชนชาติ ซึ่งหมายถึงพวกยูดาห์ทั้งหมดด้วย 24อาหัสทรงรวบรวมเครื่องใช้ของพระนิเวศของพระเจ้า และตัดเครื่องใช้ของพระนิเวศของพระเจ้าออกเป็นชิ้นๆ พระองค์ทรงปิดประตูพระนิเวศของพระยาห์เวห์ พระองค์ทรงสร้างแท่นบูชาสำหรับพระองค์เองในทุกมุมเมืองของกรุงเยรูซาเล็ม 25พระองค์ทรงสร้างปูชนียสถานสูงในเมืองทุกเมืองของยูดาห์ เพื่อเผาเครื่องหอมถวายพระอื่นๆ ซึ่งทำให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพระองค์ทรงพระพิโรธ 26ส่วนพระราชกิจอื่นๆ และเรื่องราวทั้งหมดของพระองค์ตั้งแต่ต้นจนจบ ดูสิ ล้วนถูกบันทึกไว้ในหนังสือพงศ์กษัตริย์ของยูดาห์และอิสราเอล 27แล้วอาหัสทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ เขาทั้งหลายก็ฝังพระศพไว้ในกรุงคือในกรุงเยรูซาเล็ม แต่พวกเขาไม่ได้นำพระศพไปไว้ในอุโมงค์ของพระราชาแห่งอิสราเอล และเฮเซคียาห์พระราชโอรสของพระองค์ก็ทรงขึ้นครองราชย์แทนพระองค์

อรรถาธิบาย

อย่าให้พระราชกิจของพระองค์ทำให้คุณหยิ่งทนง

ช่วงเวลาที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีอาจเป็นการทดสอบความเชื่อของเรามากพอ ๆ กับเวลาที่ทุกอย่างไม่เป็นไปด้วยดี อับราฮัม ลินคอล์น ในฐานะประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริการู้ทุกอย่างเกี่ยวกับอำนาจ กล่าวว่า 'มนุษย์เกือบทุกคนสามารถทนต่อความทุกข์ยากได้ แต่ถ้าคุณต้องการทดสอบว่าเขาเป็นคนยังไง จงมอบอำนาจให้เขา’

อุสซียาห์เริ่มต้นได้ดีมาก เขากลายเป็นกษัตริย์เมื่ออายุเพียงสิบหก (26:1) ‘พระ​องค์​ทรง​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระ​ยาห์​เวห์’ (ข้อ 4) เขา ‘แสวงหาพระเจ้า’ (ข้อ 5ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘ตราบเท่า​ที่​พระ​องค์​ทรง​แสวง​หา​พระ​ยาห์​เวห์ พระ​เจ้า​ทรง​ทำ​ให้​พระ​องค์​เจริญ​ขึ้น’ (ข้อ 5ข) ‘พระเจ้าทรงช่วยพระองค์’ (ข้อ 7) เป็นผู้มีชื่อเสียงและมีอำนาจมาก (ข้อ 8) ‘ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปตามทางของพระองค์’ (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ขณะที่เขาแสวงหาพระเจ้า พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของเขา ทรงช่วยเขาและทำให้เขาประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างผิดพลาดไปอย่างน่ากลัวเมื่อ ‘พระ​นาม​ของ​พระ​องค์​ก็​เลื่อง​ลือ​ไป​ไกล’ (ข้อ 15ค) ชื่อเสียงความสำเร็จและอำนาจเป็นสิ่งที่ทำให้ลุ่มหลง มันนำพาอันตรายจากความเย่อหยิ่งและความอวดดีมาด้วย

‘แต่​เมื่อ​ทรง​เข้ม​แข็ง​แล้ว พระ​องค์​ก็​มี​พระ​ทัย​ผยอง​ขึ้น​จน​ทำ​ให้​เสื่อม​ลง’ (ข้อ 16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาทำสิ่งที่ห้ามไว้ในพระคัมภีร์ (ดู กันดารวิถี 16:40,18:7) แท้ที่จริงมีผู้นำหลายคน ‘ขัดขวาง’ (2 พงศาวดาร 26:18) และเตือนเขาว่าอย่า ‘ล่วงเกิน” (ข้อ 18) แทนที่จะฟังพวกเขา อุสซียาห์ ‘ทรงกริ้ว’ (ข้อ 19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) นี่คือคำเตือน ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี จงอย่าลำพอง แต่จงวางใจและเชื่อฟังพระเจ้าต่อไป

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์ พึ่งพาพระองค์และแสวงหาพระองค์ตลอดชีวิต

เพิ่มเติมโดยพิพพา

2 โครินธ์ 1:3-4

‘พระบิดา​ผู้​ทรง​พระ​เมตตา​กรุณา พระเจ้า​แห่ง​การ​หนุนใจ​ทุก​อย่าง พระ​องค์​ผู้​ทรง​หนุนใจ​เรา​ใน​ความ​ยาก​ลำบาก​ทั้ง​หมด​ของ​เรา’

น่าเศร้าที่ชีวิตเราต้องเจอกับปัญหา แต่เรามีพระบิดาผู้ทรงเมตตากรุณา ผู้ทรงเป็นพระเจ้าแห่งการหนุนใจทุกอย่าง ไม่ใช่แค่การหนุนใจเพียงบางครั้ง แต่พระองค์จะ​ทรง​หนุนใจ​เรา​ใน​ความ​ยาก​ลำบาก​ทั้ง​หมด​ของ​เรา

reader

App

Download The Bible with Nicky and Pippa Gumbel app for iOS or Android devices and read along each day.

reader

อีเมล

Sign up now to receive The Bible with Nicky and Pippa Gumbel in your inbox each morning. You’ll get one email each day.

reader

เว็บไซต์

Subscribe and listen to The Bible with Nicky and Pippa Gumbel delivered to your favourite podcast app everyday.

การอ้างอิง

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

เว็บไซต์นี้จัดเก็บข้อมูล เช่น คุกกี้ เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นและการวิเคราะห์ที่จำเป็นเท่านั้น ดูเพิ่มเติม