วัน 247

ชีวิตของคุณสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างไร

ปัญญานิพนธ์ สดุดี 105:12-22
พันธสัญญาใหม่ 2 โครินธ์ 6:3:7:1
พันธสัญญาเดิม อิสยาห์ 3:1-5:7

เกริ่นนำ

อัลเฟรด โนเบล (1833-1896) เป็นที่รู้จักอย่างดีด้วยรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แต่คนน้อยนักที่รู้ข้อเท็จจริงว่า อัลเฟรด โนเบลยังคิดค้นระเบิดไดนาไมต์อีกด้วย เขาเป็นนักเคมี วิศวกร และนักประดิษฐ์ เคยเป็นผู้ผลิตอาวุธ

ในปี ค.ศ. 1888 ลุดวิก น้องชายของอัลเฟรดเสียชีวิตลง หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสตีพิมพ์ข่าวมรณกรรมของอัลเฟรดผิดพลาด เขาถูกประณามสำหรับการประดิษฐ์ระเบิดไดนาไมต์ โดยระบุว่า: ‘พ่อค้าแห่งความตายได้ตายแล้ว… ดร. อัลเฟรด โนเบลผู้ร่ำรวยด้วยการค้นพบวิธีฆ่าคนให้เร็วขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา เสียชีวิตเมื่อวานนี้’

อัลเฟรด โนเบลรู้สึกเศร้าใจกับการคาดการณ์ล่วงหน้าว่าเขาจะถูกระลึกถึงอย่างไร เจตจำนงและพินัยกรรมสุดท้ายของเขาคือจัดสรรทรัพย์สินจำนวนมากเพื่อก่อตั้งรางวัลโนเบล เขามอบเงินมูลค่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐแก่กองทุนของรางวัลดังกล่าว ชีวิตของอัลเฟรด โนเบล มีโอกาสน้อยในการประเมินตัวเองเมื่อชีวิตใกล้ถึงจุดจบ แต่เขามีชีวิตยืนยาวพอที่จะเปลี่ยนสิ่งที่คนอื่นจะประเมินตัวเขา

คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าชีวิตของคุณจะสร้างความแตกต่างได้อย่างไร? ชีวิตของคุณจะนำพระพรไปสู่ผู้อื่นได้อย่างไร? คุณจะเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นได้อย่างไร? ชีวิตของคุณจะดำรงอยู่อย่างมีคุณค่านานเท่านานอย่างไร? เราจะดำเนินชีวิตให้เกิดผลได้อย่างไร?

ปัญญานิพนธ์

สดุดี 105:12-22

12เมื่อพวกเขายังเป็นแต่คนจำนวนน้อย
 แค่หยิบมือ ยังเป็นแต่คนต่างด้าวในที่นั้น
13พเนจรไปจากประชาชาตินี้ถึงประชาชาตินั้น
 จากราชอาณาจักรนี้ถึงอีกชนชาติหนึ่ง
14พระองค์มิทรงยอมให้ผู้ใดบีบบังคับเขา
 พระองค์ทรงตักเตือนบรรดาพระราชาด้วยเห็นแก่พวกเขาว่า
15“อย่าแตะต้องผู้ที่เราเจิมไว้
 อย่าทำอันตรายผู้เผยพระวจนะของเรา”
16เมื่อพระองค์ทรงเรียกการกันดารอาหารให้เกิดขึ้นในแผ่นดิน
 พระองค์ทรงทำลายอาหารทั้งหมด
17พระองค์ทรงใช้ชายคนหนึ่งไปข้างหน้าพวกเขา
 คือโยเซฟผู้ถูกขายไปเป็นทาส
18พวกเขาทำให้เท้าทั้งคู่ของเขาเจ็บด้วยตรวน
 คอของเขาเข้าอยู่ในปลอกเหล็ก
19จนกว่าสิ่งที่เขากล่าวได้เกิดขึ้นจริง
 พระดำรัสของพระยาห์เวห์พิสูจน์ว่าเขาถูก
20พระราชาก็ทรงใช้ให้ไปปล่อยตัวเขา
 ผู้ปกครองของชนชาติทั้งหลายได้ปล่อยเขาเป็นอิสระ
21พระราชาทรงตั้งเขาให้เป็นเจ้านายเหนือวังของพระองค์
 เป็นผู้ปกครองกรรมสิทธิ์ทั้งสิ้นของพระองค์
22ให้บังคับบัญชาข้าราชการของพระองค์ตามชอบใจ
 และสอนสติปัญญาแก่ผู้อาวุโสของพระองค์

อรรถาธิบาย

การเกิดผลมาจากความสัตย์ซื่อต่อพระเจ้า

เพื่อให้ชีวิตของคุณเกิดผล คุณต้องสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าในยามยากลำบาก ค่อนข้างง่ายที่จะสัตย์ซื่อกับพระเจ้าเมื่อยามที่ทุกอย่างในชีวิตดำเนินไปอย่างราบรื่น การทดสอบเกิดขึ้นต่อเมื่อคุณเผชิญกับการทดลองที่ดุเดือดและการล่อลวงอันยิ่งใหญ่

เมื่อผู้เขียนสดุดีสรรเสริญขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับความสัตย์ซื่อต่อประชากรของพระองค์ พวกเขาระลึกถึงชีวิตของโยเซฟ

ชีวิตของโยเซฟเกิดผลมากมาย (ดู ปฐมกาล ข้อที่ 37 – 50) ฟาโรห์ ‘ทรงตั้งเขาให้เป็นเจ้านายเหนือวังของพระองค์ เป็นผู้ปกครองกรรมสิทธิ์ทั้งสิ้นของพระองค์ ให้บังคับบัญชาข้าราชการของพระองค์ตามชอบใจ และสอนสติปัญญาแก่ผู้อาวุโสของพระองค์’ (สดุดี 105: 21-22) ด้วยเหตุนี้ ‘พระเจ้าทรงทำให้ประชากรของพระองค์มีลูกดก’ (ข้อ 24ก)

แต่การเกิดผลของโยเซฟต้องแลกมาด้วยการจ่ายราคา ในช่วงแรก ๆ ดูเหมือนว่าชีวิตของเขาจะไม่เกิดผลเลย เขาถูก ‘ขายไปเป็นทาส’ (ข้อ 17) ‘พวกเขาทำให้เท้าทั้งคู่ของเขาเจ็บด้วยตรวน คอของเขาเข้าอยู่ในปลอกเหล็ก’ (ข้อ 18) โยเซฟผ่านการทรยศ การเป็นทาส การทดลอง การคุมขัง และความทุกข์ทรมานมากมาย

แต่ในสถานการณ์ทุกอย่าง เขายังคงความสัตย์ซื่อ เหตุผลสำหรับความสัตย์ซื่อของโยเซฟคือการวางใจว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของพระเจ้า แม้ในเวลาที่เลวร้าย (ปฐมกาล 45:5–8,50:20) และในที่สุด ‘พระดำรัสของพระยาห์เวห์พิสูจน์ว่าเขาถูก’ (ข้อ 19)

โยเซฟไม่เพียงแต่ยังคงสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าแม้จะดูเหมือนถูกทอดทิ้ง แต่เขายังคงสัตย์ซื่อต่อครอบครัวของเขาในการให้อภัยอย่างหมดใจแทนที่จะกล่าวโทษและปฏิเสธพวกเขา ในที่สุดความสัตย์ซื่อของเขานำไปสู่การเกิดผลอันยิ่งใหญ่

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณสำหรับความสัตย์ซื่ออันน่าอัศจรรย์ของพระองค์ ช่วยข้าพระองค์ให้สัตย์ซื่อต่อพระองค์แม้ในยามยากลำบากอันเกิดจากการทดลอง ความผิดหวัง และความท้อแท้ เช่นเดียวกับโยเซฟ ขอให้ชีวิตของข้าพระองค์เกิดผล

พันธสัญญาใหม่

2 โครินธ์ 6:3:7:1

3เราไม่ได้วางสิ่งกีดขวางบนหนทางของผู้ใดเลย เพื่องานปรนนิบัตินี้จะไม่ถูกติเตียน 4แต่เราแสดงตัวเป็นคนปรนนิบัติของพระเจ้าในทุกทาง โดยมีความทรหดอดทนเป็นอย่างมากในความยากลำบาก ความลำเค็ญแปลได้อีกว่า ความขัดสน ในเหตุวิบัติ 5การถูกเฆี่ยน และการถูกจำคุก ในเหตุการณ์วุ่นวาย ในการตรากตรำ ในการอดหลับอดนอน ในการอดอาหาร 6โดยความบริสุทธิ์ ความรู้ ความอดทน และความกรุณา โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยความรักอย่างจริงใจ 7โดยถ้อยคำสัตย์จริง โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า โดยการใช้ความชอบธรรมเป็นอาวุธทั้งด้วยมือขวาและมือซ้าย 8ทั้งในขณะมีเกียรติและขณะไร้เกียรติ ขณะถูกดูหมิ่นและขณะได้รับการยกย่อง เมื่อถูกกล่าวหาว่าเป็นคนหลอกลวง แต่ยังเป็นคนซื่อสัตย์ 9ว่าเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จัก แต่ยังเป็นคนที่ใครๆ รู้จักดี เป็นคนที่กำลังจะตาย แต่ดูสิ ยังมีชีวิตอยู่ เป็นคนถูกเฆี่ยนแต่ยังไม่ตาย 10เป็นคนมีความทุกข์แต่ยังยินดีอยู่เสมอ เป็นคนยากจนแต่ยังทำให้คนจำนวนมากมั่งมี เป็นคนไม่มีอะไรเลยแต่ยังเป็นเจ้าของทุกสิ่ง
 11ชาวโครินธ์เอ๋ย เราพูดกับท่านทั้งหลายอย่างไม่ปิดบังเลย และใจของเราก็เปิดกว้างต่อพวกท่าน 12เราไม่ได้ปิดใจต่อพวกท่าน แต่ความรู้สึกของพวกท่านต่างหากที่เป็นฝ่ายปิด 13ขอท่านตอบสนองเราในแบบเดียวกัน ข้าพเจ้าพูดกับพวกท่านเหมือนพูดกับลูกๆ คือขอพวกท่านจงเปิดใจให้กว้างด้วย

วิหารของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์

 14อย่าเข้าเทียมแอกกับคนที่ไม่เชื่อ เพราะว่าความชอบธรรมจะมีส่วนอะไรกับความอธรรม? และความสว่างจะมีส่วนกับความมืดได้อย่างไร? 15พระคริสต์กับเบลีอัลจะไปด้วยกันได้อย่างไร? หรือคนที่เชื่อจะมีส่วนอะไรกับคนที่ไม่เชื่อ? 16วิหารของพระเจ้าจะตกลงอะไรกับรูปเคารพ? เพราะว่าเราเป็นวิหารของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า

 “เราจะอยู่ในเขาทั้งหลายและจะดำเนินในหมู่พวกเขา
  เราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา
 และเขาจะเป็นประชากรของเรา”

17“ฉะนั้นพวกเจ้าจงออกจากท่ามกลางพวกเขา
 และจงแยกตัวออกจากเขาทั้งหลาย
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัส
อย่าแตะต้องสิ่งที่ไม่สะอาด
 แล้วเราจึงจะรับพวกเจ้าไว้
18 เราจะเป็นดังบิดา
ของพวกเจ้า
พวกเจ้าจะเป็นบุตรชาย บุตรหญิงของเรา

พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพทั้งสิ้นได้ตรัสดังนั้น

2 โครินธ์ 7

 1ท่านที่รักทั้งหลาย ในเมื่อ เรามีพระสัญญาเช่นนี้ ขอให้เราชำระตัวเองให้ปราศจากมลทินทุกอย่างของเนื้อหนังและวิญญาณ จงมีความบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ด้วยความเกรงกลัวพระเจ้า

อรรถาธิบาย

การเกิดผลมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

ชีวิตของคุณสามารถเกิดผลอย่างมากมาย เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่ภายในคุณ คุณเป็น ‘วิหารที่พระเจ้าพำนักอยู่’ (6:16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เช่นเดียวกับพระคัมภีร์ในภาคพันธสัญญาเดิมที่พระเจ้าสถิตในที่บริสุทธิ์ บัดนี้พระองค์สถิตอยู่ในคุณและผม โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงให้ผลิตผลที่สวยงามในชีวิตของคุณ (กาลาเทีย 5:22–23)

ชีวิตของอาจารย์เปาโลได้รับการถกเถียงว่าเป็นหนึ่งในชีวิตที่เกิดผลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก เขาอธิบายตัวเองว่าเป็นผู้รับใช้พระเจ้า (2 โครินธ์ 6:4) ในชีวิตของเขา และทำให้คนเป็นอันมากมั่งมี (ข้อ 10) ‘ความมั่งมี’ สำหรับอาจารย์เปาโลคือความร่ำรวยฝ่ายวิญญาณจากการอยู่ในพระคริสต์ ชีวิตของอาจารย์เปาโลยังคงทำให้หลายคนในตอนนี้มั่งมีอย่างต่อเนื่อง ชีวิตของเขานั้นเกิดผลมานับ 2,000 ปี และจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์

เช่นเดียวกับโยเซฟ การเกิดผลของเปาโลแลกมาด้วยการจ่ายราคาที่สูง ท่านบันทึกรายการสิ่งที่ต้องทน ‘ช่วงเวลาที่หนักหนาสาหัส ช่วงเวลาที่ยากลำบาก ช่วงเวลาเลวร้าย ช่วงเวลาที่ถูกทุบตี ติดคุก และถูกรุม ทำงานหนัก ทำงานดึก ทำงานโดยไม่ได้รับประทานอาหาร... ถูกต่อว่า... ไม่ได้รับความไว้ใจ ถูกโลกเพิกเฉย... ถูกโบยตีทุกตารางนิ้วทั่วร่างกาย... จมอยู่ในน้ำตา... มีชีวิตอยู่แบบมือเปล่า...ไม่มีอะไรเลย' (ข้อ 4-10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เมื่อมองดูชีวิตของเปาโล ผมรู้สึกท้าทายมาก มันรวมเอาปัญหาทั้งปวงของผมไว้ในทัศนมิติ

ในความทุกข์ยากทั้งหมดนี้ เปาโลยังคงสัตย์ซื่อ ‘โดยความบริสุทธิ์ ความรู้ ความอดทน และความกรุณา โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยความรักอย่างจริงใจ โดยถ้อยคำสัตย์จริง โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า’ (ข้อ 6-7ก) เขายังคงเป็น ‘คนซื่อสัตย์’ และ ‘ยินดีเสมอ’ (ข้อ 8,10) โดยกล่าวว่า ‘เป็นคนไม่มีอะไรเลย... แต่ในความเป็นจริง ยังเป็นเจ้าของทุกสิ่ง’ (6:10ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Phillips New Testament in Modern English โดยผู้แปล)

เปาโลกล่าวกับชาวโครินธ์ว่า ‘เราพูดกับท่านทั้งหลายอย่างไม่ปิดบังเลย และใจของเราก็เปิดกว้างต่อพวกท่าน เราไม่ได้ปิดใจต่อพวกท่าน’ (ข้อ 11–12ก) ท่านเปิดเผยและมีความอ่อนไหวต่อชาวโครินธ์และวิงวอนให้พวกเขาเปิดใจในลักษณะเดียวกัน ท่านกล่าวว่า ‘เปิดเส้นทางในชีวิตของพวกท่าน ดำเนินชีวิตอย่างเปิดเผยและกว้างขวาง!’ (ข้อ 13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เปาโลได้สำรวจอาณาเขตภายในจิตใจของท่านเอง และเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในหัวใจและจิตวิญญาณที่ซึ่งฝังขุมสมบัติเอาไว้ ท่านได้ตรวจสอบขุมสมบัติอย่างรอบคอบ และนำพวกมันออกมาแสดงให้เห็น

ในการดำเนินการด้วยความสัตย์ซื่อ คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณเป็นใคร คุณต้องรู้ว่าคุณยืดหยัดเพื่ออะไร คุณเชื่อในอะไร และสิ่งที่คุณสนใจมากที่สุดคืออะไร

แบร์ กริลส์ เขียนว่า ‘ผู้คนมักจะคิดว่าพวกเขาต้องเป็นคนตลก มีไหวพริบ หรือเฉียบขาดบนเวที แต่ไม่หรอก ไม่ใช่ คุณเพียงแค่ต้องซื่อสัตย์ หากคุณสามารถสนิทสนมและบอกเล่าเรื่องราวภายใน เช่น อารมณ์ ความสงสัย การดิ้นรน ความกลัว หลาย ๆ อย่าง ผู้คนก็จะตอบสนองด้วย’

พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นผู้มอบเสรีภาพให้กับคุณ พระองค์คือผู้ทำให้ชีวิตของคุณเกิดผล

เปาโลไม่ต้องการให้สิ่งใดมาทำลายการเกิดผลในชีวิตของชาวโครินธ์ เขาวิงวอนแก่บรรดาคนเหล่านั้นว่า ‘อย่าเป็นหุ้นส่วนกับผู้ที่ปฏิเสธพระเจ้า’ (ข้อ 14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาไม่ได้กำลังบอกแก่ชาวโครินธ์ให้นำตัวเองออกไปจากโลกนี้ (1 โครินธ์ 5:9-10) ในทางกลับกัน เขากำลังเตือนถึงอันตรายของการเป็นหุ้นส่วนระยะยาวกับผู้ที่ปฏิเสธพระเจ้า

หลายคนเพิกเฉยต่อคำเตือนเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น ในแง่ของคู่แต่งงาน และเป็นผลให้ชีวิตแต่งงานของบางคนจบลงภายในไม่กี่เดือนหรือหลายปีที่ไม่ได้ไปโบสถ์อีกต่อไปและสูญเสียความเชื่อไปในที่สุด แทบใจสลายเมื่อเรามองดูสิ่งเหล่านี้

'ดังนั้น' เปาโลจึงเขียนว่า ‘ทิ้งความไม่สัตย์ซื่อ และประนีประนอม ทิ้งไปเพื่อหวังผลอันดี’ (2 โครินธ์ 6,16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เปาโลกล่าวต่อไปว่า ‘เรามาหยุดพักกับทุกสิ่งที่ทำให้เราเสียเรื่อง และเสียสมาธิกันเถอะ ทั้งภายในและภายนอก มาทำให้ชีวิตของเราเหมาะสมและเป็นวิหารอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับการนมัสการพระเจ้า’ (7:1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า โปรดเติมพลังของพระองค์ให้ข้าพระองค์ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ ให้ข้าพระองค์เป็นคนบริสุทธิ์ อดทน ใจดี สุจริตใจ และรักอย่างจริงใจด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง

พันธสัญญาเดิม

อิสยาห์ 3:1-5:7

1เพราะดูสิ องค์เจ้านายคือพระยาห์เวห์จอมทัพ
 จะทรงนำไปเสียจากเยรูซาเล็มและจากยูดาห์
ซึ่งสิ่งหล่อเลี้ยงและการจุนเจือ
 คือสิ่งหล่อเลี้ยงทั้งหมดซึ่งเป็นอาหาร
 และสิ่งหล่อเลี้ยงทั้งหมดซึ่งเป็นน้ำดื่ม
2นักรบและทหาร
 ผู้วินิจฉัยและผู้เผยพระวจนะ
 ผู้ทำนายและผู้ใหญ่
3นายกอง
 และคนมีตำแหน่งสูง
ที่ปรึกษาและคนเล่นไสยศาสตร์ที่เจนจัด
 ทั้งผู้ชำนาญการทำอาถรรพณ์
4และเราจะทำให้เด็กๆ เป็นเจ้านายของเขา
 และทารกจะปกครองเขาทั้งหลาย
5และประชาชนจะบีบบังคับกันและกัน
 แต่ละคนจะบีบบังคับคนอื่น
และแต่ละคนจะบีบบังคับเพื่อนบ้านของตน
 เด็กๆ จะโอหังต่อผู้อาวุโส
 และคนเลวต่อคนมีเกียรติ
6เมื่อคนหนึ่งคนใดบังคับพี่น้องของเขา
 ในบ้านของบิดาของเขา กล่าวว่า
“เจ้ามีเสื้อคลุมอยู่แล้ว
 ให้เจ้าเป็นผู้นำของเรา
 และซากหักพังนี้จะอยู่ใต้กำมือของเจ้า”
7แต่ในวันนั้นเขาจะคัดค้านว่า
 “ข้าพเจ้าจะไม่เป็นผู้แก้ไข
ในบ้านของข้าพเจ้าไม่มีทั้งอาหารและเสื้อคลุม
พวกท่านอย่าแต่งตั้งข้าพเจ้า
 เป็นผู้นำของประชาชนเลย”
8เพราะเยรูซาเล็มก็สะดุด
 และยูดาห์ก็ล้มลง
เพราะวาจาและการกระทำของพวกเขาล้วนต่อสู้พระยาห์เวห์
 กบฏต่อการทรงสถิตด้วยพระสิริของพระองค์
9สีหน้าของเขาทั้งหลายเป็นพยานปรักปรำเขา
 พวกเขาป่าวร้องความบาปของเขาอย่างเมืองโสโดม
พวกเขาไม่ได้ปิดบังเลย
 วิบัติแก่ตัวเขา
 เพราะว่าพวกเขานำความหายนะมาสู่พวกเขาเอง
10จงบอกคนชอบธรรมว่าเขาจะเป็นสุข
 เพราะพวกเขาจะได้รับผลการกระทำของเขา
11วิบัติแก่คนอธรรม เพราะว่าสิ่งเลวร้ายจะเกิดกับเขา
 เพราะว่าเขาต้องถูกจัดการตามสิ่งที่มือของเขาได้ทำ 12ส่วนชนชาติของเรานั้น เด็กๆ เป็นผู้บีบบังคับเขา
 และผู้หญิงปกครองเหนือพวกเขา
โอ ชนชาติของเราเอ๋ย ผู้นำของเจ้าทำให้เจ้าหลงทาง
 ทั้งทำให้วิถีทางของพวกเจ้าสับสน
13พระยาห์เวห์ทรงยืนตัดสินความ
 พระองค์ทรงยืนพิพากษาชนชาติของพระองค์
14พระยาห์เวห์ทรงเข้าไปพิพากษา
 พวกผู้ใหญ่และเจ้านายแห่งชนชาติของพระองค์
“พวกเจ้านี่แหละที่กลืนกินสวนองุ่น
 ของริบจากคนจนก็อยู่ในบ้านของเจ้า
15ที่พวกเจ้าบีบคั้นชนชาติของเรา
 และบดขยี้หน้าคนจนนั้นหมายความว่าอย่างไร” พระ
 ยาห์เวห์องค์เจ้านายผู้ทรงเป็นจอมทัพ ตรัสดังนี้แหละ
16และพระยาห์เวห์ตรัสว่า
 “เพราะว่าบรรดาธิดาศิโยนนั้นหยิ่งผยอง
และเดินคอยืดคอยาว
 ทั้งส่งตาหวาน
เดินกระตุ้งกระติ้ง
 ขยับเท้าให้มีเสียงกรุ๋งกริ๋ง
17องค์เจ้านายจะให้เป็นรอยแผลตกสะเก็ด
 บนศีรษะของบรรดาธิดาศิโยน
 และพระยาห์เวห์จะทำให้หน้าผากของพวกนางโล้น”

 18ในวันนั้นองค์เจ้านายจะเอาบรรดาสิ่งงดงามไปเสีย คือกำไลข้อเท้า ปันจุเหร็จคือเครื่องประดับเป็นสร้อยที่คาดรอบศีรษะ ตุ้มวงเดือน 19จี้ กำไลมือ ผ้าแถบ 20ผ้ามาลา กำไลต้นแขน ผ้าคาดเอว ผอบน้ำมันหอม ตะกรุด 21แหวนตราและห่วงที่จมูก 22เสื้อออกงานและเสื้อคลุม ผ้าคลุมและกระเป๋าถือ 23เสื้อผ้าโปร่ง เสื้อผ้าลินิน ผ้าโพกศีรษะและผ้าคลุมหน้า
24แทนน้ำหอมจะมีแต่ความเน่าเหม็น
 แทนผ้าคาดเอวจะมีแต่เชือกรัด แทนผมดัดจะมีแต่ศีรษะล้าน  แทนเสื้องามล้ำค่า จะมีแต่ผ้ากระสอบ
 แทนความงดงาม จะมีแต่ความอับอาย 25พวกผู้ชายของท่านจะล้มลงด้วยดาบ  และทหารกล้าของท่านจะล้มลงในสงคราม 26ประตูเมืองของเธอจะร้องไห้และไว้ทุกข์
 เธอจะถูกทำลายแปลได้อีกว่า จะสิ้นเนื้อประดาตัวแล้วนั่งอยู่บนดิน

อิสยาห์ 4

1ในวันนั้นหญิงเจ็ดคนจะยึดชายคนหนึ่งไว้ กล่าวว่า
 “เราจะกินอาหารของเราเองและสวมเครื่องนุ่งห่มของเราเอง
ขอเพียงให้คนเรียกเราตามชื่อของท่าน
 ขอโปรดเอาความอดสูของเราไปเสีย”

อนาคตรุ่งโรจน์ของผู้รอดตายในศิโยน

 2ในวันนั้นกิ่งของพระยาห์เวห์จะงดงามและรุ่งโรจน์ และผลิตผลของแผ่นดินจะเป็นความภูมิใจและเป็นเกียรติของผู้รอดตายในอิสราเอล 3และคนที่เหลืออยู่ในศิโยนและตกค้างอยู่ในเยรูซาเล็มจะถูกเรียกว่าบริสุทธิ์ คือทุกคนที่ถูกบันทึกว่ามีชีวิตในเยรูซาเล็ม 4เมื่อองค์เจ้านายได้ทรงล้างความโสโครกของบรรดาธิดาศิโยน และชำระรอยเลือดของเยรูซาเล็มจากท่ามกลางเมืองนั้น ด้วยวิญญาณแห่งการพิพากษาและวิญญาณแห่งการเผาไหม้ 5และพระยาห์เวห์จะทรงสร้างเมฆสำหรับกลางวัน ทั้งควันและแสงของเปลวเพลิงสำหรับกลางคืน อยู่เหนือทุกแห่งหนของภูเขาศิโยนและเหนือที่ชุมนุมของเมืองนั้น เพราะจะมีกระโจมคลุมเหนือพระสิริทั้งสิ้น 6และจะเป็นร่มเงาบังแดดเวลากลางวัน ทั้งเป็นที่ลี้ภัยและที่กำบังจากพายุและห่าฝน

อิสยาห์ 5

บทเพลงสวนองุ่นพันธุ์เลว

1ขอให้ข้าพเจ้าร้องเพลงเพื่อสหายรักของข้าพเจ้า
 เป็นเพลงของสหายรักของข้าพเจ้าเกี่ยวกับสวนองุ่นของท่าน
สหายรักของข้าพเจ้ามีสวนองุ่นแปลงหนึ่ง
 อยู่บนเนินเขาอันอุดมยิ่ง
2ท่านขุดแล้วเก็บก้อนหินออกหมด
 และปลูกเถาองุ่นอย่างดีไว้
ท่านสร้างหอเฝ้าอยู่ท่ามกลาง
 และสกัดบ่อย่ำองุ่นไว้ในสวนนั้นด้วย
ท่านคาดหวังว่ามันจะเกิดผลองุ่นหวาน
 แต่มันกลับเกิดผลเปรี้ยว
3บัดนี้ ชาวเยรูซาเล็ม
 และคนยูดาห์เอ๋ย
จงตัดสินระหว่างเรา
 กับสวนองุ่นของเรา
4มีอะไรที่จะทำได้อีกเพื่อสวนองุ่นของเรา
 ซึ่งเรายังไม่ได้ทำให้
เมื่อเราคาดหวังว่ามันจะเกิดผลองุ่นหวาน
 ทำไมมันจึงเกิดผลเปรี้ยว?
5บัดนี้เราจะบอกเจ้าทั้งหลายว่า
 เราจะทำอะไรกับสวนองุ่นของเรา
เราจะรื้อรั้วกั้นของมันออก
 แล้วมันก็จะถูกทำลาย
เราจะพังกำแพงของมันลง
 แล้วมันก็จะถูกเหยียบย่ำ
6เราจะทำให้มันเป็นที่ร้าง
 จะไม่มีใครลิดแขนงหรือพรวนดิน
หนามย่อยหนามใหญ่ก็จะงอกขึ้น
 และเราจะบัญชาเมฆ
ไม่ให้โปรยฝนรดมัน
7เพราะว่าสวนองุ่นของพระยาห์เวห์จอมทัพ
 คือวงศ์วานอิสราเอล
และคนยูดาห์
 เป็นต้นไม้ที่พระองค์ทรงชื่นชอบ
และพระองค์ทรงคาดหวังความยุติธรรม
 แต่ ดูซิ มีการนองเลือด
ทรงคาดหวังความชอบธรรม
 แต่ ดูซิ มีเสียงร้องให้ช่วย

อรรถาธิบาย

การเกิดผลมาจากการติดสนิทกับพระเยซู

พระเจ้ารักคุณ พระองค์ต้องการให้คุณอยู่ใกล้กับพระองค์ ต้องการให้คุณเป็นกิ่งก้านในเถาองุ่นของพระองค์ จนกระทั่งออกผล

เมื่อเราไม่สัตย์ซื่อต่อพระองค์ ก็เหมือนเราถูกตัดขาดจากเถาองุ่น เรากลายเป็นคนที่ไม่เกิดผล อิสยาห์เขียนว่า ‘สหายรักของข้าพเจ้ามีสวนองุ่น สวนองุ่นที่ดีแปลงหนึ่งบนพื้นที่อันอุดม... ท่านเฝ้ารอผลองุ่น แต่ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน ท่านได้เพียงองุ่นเปรี้ยวไร้ราคา... ท่านมองหาความยุติธรรมแต่พบเพียงการเข่นฆ่ากันและกัน ท่านมองหาการเก็บเกี่ยวอันชอบธรรม และได้ยินเพียงเสียงคร่ำครวญของบรรดาเหยื่อ’ (5:1-7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ในสามสิบเก้าบทแรกของพระธรรมอิสยาห์ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการพิพากษาของพระเจ้า ‘พระเจ้าเข้าไปในห้องพิจารณาคดี พระองค์ทรงอยู่บนบัลลังก์เพื่อตัดสินผู้คน พวกเจ้าจัดระเบียบในศาล ดึงผู้นำของฝูงคนเข้าสู่การพิจารณาคดี’ (3:13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ประชากรของพระเจ้าไม่สัตย์ซื่อต่อพระองค์ ‘เจ้าสร้างความเสียหายให้กับประเทศนี้ บ้านของเจ้าเต็มไปด้วยสิ่งที่เจ้าขโมยมาจากคนจน นี่มันอะไรกัน เหยียบย่ำบนประชากรของเรา กดบดหน้าคนยากไร้ให้จมลงสู่ดิน’ (ข้อ 14-15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ประชากรของพระเจ้าเหล่านี้มีความร่ำรวยทางวัตถุมากมาย นำไปสู่ความจองหอง การผิดศีลธรรม และความโลภ (ข้อ 16-23)

อิสยาห์เห็นการพิพากษาที่จะมาถึง และในวันนั้น ‘กิ่งของพระยาห์เวห์จะงดงามและรุ่งโรจน์’ (4:2)

ในช่วงเวลาของอิสยาห์ สิ่งที่อิสยาห์ว่าไว้จะเกิด เกิดขึ้นเพียงบางอย่าง เพราะเป็นเช่นเดียวกับคำพยากรณ์อื่น ๆ หลายคำพยากรณ์ชี้ไปยังภายหน้าว่าพวกเราสามารถเห็นความงดงามและรุ่งโรจน์ได้ผ่านทางพระเยซู ผู้ทรงเป็น ‘กิ่งของพระยาห์เวห์’ (ข้อ 2) พระเยซูเป็นกิ่งก้านจากเถาองุ่นของพระเจ้า พวกเราเป็นกิ่งก้านจากเถาองุ่นของพระเยซู (ดู ยอห์น 15:1–8)

พระเยซูทรงเป็นกิ่งแท้และเป็นเถาองุ่นแท้ พระองค์ทรงเป็นคนสัตย์ซื่อและเกิดผลเหนือกว่ามนุษย์ทุกคน (แม้กระทั่งโยเซฟหรือเปาโล!) บัดนี้พระองค์ทรงเชื้อเชิญคุณให้เป็นส่วนหนึ่งของเถาองุ่นของพระองค์ ให้คงอยู่ใกล้พระองค์และเกิดผลมาก ซึ่งเป็นผลที่จะคงอยู่ตลอดไป (ยอห์น 15:8,16)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ต้องการให้ชีวิตของข้าพระองค์สร้างความแตกต่าง ขอบพระคุณที่พระองค์ทำให้เป็นไปได้ ให้ข้าพระองค์อยู่ใกล้พระองค์ สัตย์ซื่อและเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ มีชีวิตเกิดผลที่จะคงอยู่ตลอดไป

เพิ่มเติมโดยพิพพา

2 โครินธ์ 7:1

‘ขอให้เราชำระตัวเองให้ปราศจากมลทินทุกอย่างของเนื้อหนังและวิญญาณ’

ฉันต้องการดีท็อกซ์ก่อนเริ่มสิ่งใหม่ ๆ (ไม่ใช่แค่ลดช็อกโกแลตนะ… แต่อาจจะต้องเลิกกินไปเลย!)

reader

App

Download The Bible with Nicky and Pippa Gumbel app for iOS or Android devices and read along each day.

reader

อีเมล

Sign up now to receive The Bible with Nicky and Pippa Gumbel in your inbox each morning. You’ll get one email each day.

reader

เว็บไซต์

Subscribe and listen to The Bible with Nicky and Pippa Gumbel delivered to your favourite podcast app everyday.

การอ้างอิง

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

เว็บไซต์นี้จัดเก็บข้อมูล เช่น คุกกี้ เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นและการวิเคราะห์ที่จำเป็นเท่านั้น ดูเพิ่มเติม