วัน 313

พบกับผู้บริจาคเลือดให้คุณ

ปัญญานิพนธ์ สุภาษิต 27:5-14
พันธสัญญาใหม่ ฮีบรู 9:1-15
พันธสัญญาเดิม เอเสเคียล 16:1-63

เกริ่นนำ

เฮซี่ ลูกสาวบุญธรรมคนที่สองของเราได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวในปี 2015 ในทางการแพทย์ ความหวังเดียวของเธอคือผู้บริจาคที่เข้าคู่กัน ชายหนุ่มชาวเยอรมันผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ได้เสียสละไขกระดูกของเขาให้ การบริจาคของเขาช่วยชีวิตเฮซี่อย่างอัศจรรย์ คุณลองนึกภาพว่าจะเป็นอย่างไรถ้าเฮซี่ได้พบกับผู้บริจาคของเธอ?

(อ่านเรื่องราวของ เฮซี่ เพิ่มเติมได้ที่นี่)

ยิ่งไปกว่านั้น คุณสามารถพบกับผู้บริจาคโลหิตให้คุณ พระเยซูมาเพื่อ ‘ให้ชีวิตของท่านเป็นค่าไถ่คนจำนวนมาก’ (มาระโก 10:45) อาหารมื้อสุดท้าย เมื่อพระเยซูหยิบถ้วยขึ้นมาตรัสว่า ‘นี่เป็นโลหิตแห่งพันธสัญญา’ (มัทธิว 26:28; มาระโก 14:24) ‘พระโลหิตล้ำค่าของพระคริสต์’ (1เปโตร 1:19) มีการเน้นตลอดพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่

  • พระโลหิตทำให้การยกบาปเป็นไปได้ (โคโลสี 1:14)
  • พระโลหิตชำระคุณจากบาป (1 ยอห์น 1:7)
  • พระโลหิตทำให้คุณเข้าใกล้พระเจ้า (เอเฟซัส 2:13)
  • พระโลหิตนำสันติภาพและการคืนดี (โคโลสี 1:20)
  • พระโลหิตนั้นให้ชีวิต (ยอห์น 6:53)
  • พระโลหิตช่วยให้เราเอาชนะซาตานได้ (วิวรณ์ 12:11)
  • ข้อพระคัมภีร์สำหรับวันนี้ เราจะเห็นแง่มุมต่าง ๆ ว่าสิ่งเหล่านี้หมายถึงอะไร
ปัญญานิพนธ์

สุภาษิต 27:5-14

5ว่ากันต่อหน้า
 ดีกว่ารักกันลับๆ
6บาดแผลที่มิตรทำก็ด้วยเจตนาดี
 แต่การจูบของศัตรูนั้นมากเกินความจริง
7คนที่อิ่มแล้วย่อมเบื่อน้ำผึ้ง
 แต่สำหรับคนหิว ทุกสิ่งที่ขมก็กลับหวาน
8คนที่ร่อนเร่จากบ้านของตน
 ก็เหมือนนกที่เร่ร่อนจากรังของมัน
9น้ำมันและเครื่องหอมทำให้ใจยินดี
 และความอ่อนหวานของเพื่อนมาจากคำแนะนำที่จริงใจ
10อย่าทอดทิ้งเพื่อนของเจ้า และเพื่อนของบิดาเจ้า
 และอย่าไปที่บ้านพี่น้องของเจ้าในวันที่เจ้าพบความหายนะ
เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้
 ดีกว่าพี่น้องที่อยู่ไกล
11ลูกเอ๋ย จงมีปัญญา และจงทำให้ใจของข้ายินดี
 เพื่อข้าจะตอบคนที่ตำหนิข้าได้
12คนสุขุมเห็นอันตรายและซ่อนตัวเสีย
 แต่คนรู้น้อยเดินเรื่อยไปและรับอันตรายนั้น
13จงริบเสื้อผ้าของผู้ที่ค้ำประกันให้คนอื่น
 และจงยึดมันไว้ เมื่อเขาประกันให้หญิงต่างด้าว
14คนที่ตื่นแต่เช้ามืดไปอวยพรเพื่อนบ้านด้วยเสียงดัง
 เขากลับจะเห็นว่าเป็นคำสาปแช่ง

อรรถาธิบาย

การกระทำแห่งมิตรภาพที่ดีที่สุด

นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีเพื่อนที่ดี สิทธิพิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือมิตรภาพของพระเยซู พระองค์ทรงเรียกคุณว่าเป็นเพื่อนของพระองค์และหลั่งพระโลหิตของพระองค์ในฐานะมิตรภาพที่ดีที่สุด พระเยซูตรัสว่า ‘ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่านี้ คือการสละชีวิตเพื่อมิตรสหายของตน’ (ยอห์น 15:13)

พระธรรมสุภาษิตตอนนี้เกี่ยวกับความสำคัญของมิตรภาพ ‘เป็นเพื่อนใกล้ดีกว่าญาติอยู่ไกล’ (สุภาษิต 27:10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) คำแนะนำของเพื่อนเป็นพรที่ยิ่งใหญ่ ‘เช่นเดียวกับโลชั่นและกลิ่นหอมที่ให้ความยินดีด้านความรู้สึก มิตรภาพอันแสนหวานทำให้จิตวิญญาณสดชื่น’ (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ความภักดีต่อเพื่อนของคุณเป็นสิ่งสำคัญมาก ‘อย่าทอดทิ้งเพื่อนของเจ้า และเพื่อนของบิดาเจ้า’ (ข้อ 10)

เพื่อนที่ดีจะไม่เพียงแต่พูดแต่สิ่งดี ๆ เท่านั้น ‘ว่ากันต่อหน้า ดีกว่ารักกันลับ ๆ’ (ข้อ 5) ผู้เขียนพระธรรมสุภาษิตกล่าวต่อไปว่า ‘บาดแผลที่มิตรทำก็ด้วยเจตนาดี’ (ข้อ 6) มิตรภาพ​แท้​จริงเป็นมากกว่าการยอมรับซึ่งกันและกันโดยปราศจากการตั้งคำถาม ผมรู้สึกขอบคุณเพื่อนที่ดีของผมที่บอกความจริงอันเจ็บปวดในบางครั้งด้วยความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และความนุ่มนวลเสมอมา

คำว่า ‘บาดแผล’ ใช้เปรียบเปรยในแง่ของการทำให้เพื่อนเกิดความเจ็บปวดทางอารมณ์หรือความเศร้าโศกเพื่อประโยชน์ของพวกเขาด้วยความรัก อย่างไรก็ตาม ผมอดคิดในแง่ของสาระสำคัญของวันนี้ไม่ได้ว่า ‘บาดแผล’ ในความเข้าใจตามตัวอักษรของคำนั้น หมายถึง ‘การหลั่งเลือด’ ในกรณีของพระเยซู พระองค์ไม่ได้ทำให้โลหิตของเราหลั่ง แต่เป็นการทำให้พระโลหิตของพระองค์หลั่งเอง ‘ท่านบอบช้ำเพราะความบาปผิดของเรา’ (อิสยาห์ 53:5) โลหิตของพระองค์หลั่งเพื่อคุณด้วยมิตรภาพอันสูงสุด

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับมิตรสหาย และที่สำคัญที่สุดสำหรับมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ขอบพระคุณที่พระองค์ยอมสละชีวิตและหลั่งพระโลหิตเพื่อข้าพระองค์

พันธสัญญาใหม่

ฮีบรู 9:1-15

สถานนมัสการในโลกและในสวรรค์

1แม้แต่พันธสัญญาเดิมนั้นก็ยังมีกฎเกณฑ์ต่างๆ สำหรับศาสนพิธีและสำหรับสถานนมัสการในโลก 2เพราะว่าพลับพลาจัดเตรียมเสร็จแล้วในห้องชั้นนอกนั้น มีคันประทีป โต๊ะ และขนมปังเฉพาะพระพักตร์ ห้องนี้เรียกว่า วิสุทธิสถาน 3และข้างหลังม่านชั้นที่สองมีห้องซึ่งเรียกว่า อภิสุทธิสถาน 4ห้องนั้นมีแท่นทองคำสำหรับเผาเครื่องหอม และมีหีบพันธสัญญาหุ้มด้วยทองคำทุกด้าน ภายในนั้น มีโถทองคำบรรจุมานา มีไม้เท้าของอาโรนที่ออกดอกตูม และมีแผ่นศิลาจารึกพันธสัญญา 5เหนือหีบนั้น มีตัวเครูบแห่งพระสิริ กางปีกคลุมพระที่นั่งกรุณานั้น สิ่งเหล่านี้เราไม่อาจพรรณนาให้ละเอียดตอนนี้ได้
 6เมื่อจัดเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้อย่างนั้นแล้ว พวกปุโรหิตก็เข้าไปในห้องชั้นนอกนั้น ทุกครั้งที่ประกอบศาสนพิธี 7แต่ในห้องที่สองนั้นมีมหาปุโรหิตผู้เดียวเท่านั้นที่เข้าไปได้ปีละครั้ง และต้องนำเลือดเข้าไปถวายเพื่อตัวเอง และเพื่อบาปที่ประชาชนทำโดยไม่เจตนาด้วย 8โดยสิ่งนี้เอง พระวิญญาณบริสุทธิ์จึงทรงสำแดงว่า ทางที่นำเข้าสู่สถานศักดิ์สิทธิ์นั้นยังไม่เปิด ตราบใดที่ห้องชั้นนอกนั้นตั้งอยู่ 9ซึ่งเป็นเครื่องหมายของยุคปัจจุบัน การนำของถวายและเครื่องบูชามาถวายตามแบบนี้ไม่สามารถชำระมโนธรรมของผู้ถวายนั้น 10เพราะเป็นเรื่องอาหารและเครื่องดื่มและพิธีชำระล้างต่างๆ เท่านั้น เป็นเพียงกฎเกณฑ์ต่างๆ ทางกายเกี่ยวกับชีวิตภายนอกที่ได้บัญญัติไว้ จนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่
 11แต่เมื่อพระคริสต์เสด็จมาในฐานะมหาปุโรหิตแห่งบรรดาสิ่งประเสริฐซึ่งมาถึงแล้ว พระองค์ก็เสด็จเข้าไปสู่พลับพลาที่ใหญ่และสมบูรณ์ยิ่งกว่าแต่ก่อน (ที่ไม่ได้สร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ คือไม่ใช่สิ่งปลูกสร้างของโลกนี้) 12คือเสด็จเข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ครั้งเดียวเป็นพอ และพระองค์ไม่ได้ทรงนำเลือดแพะและเลือดลูกวัวเข้าไป แต่ทรงนำพระโลหิตของพระองค์เองเข้าไป จึงได้มาซึ่งการไถ่บาปชั่วนิรันดร์ 13เพราะว่าถ้าเลือดแพะและเลือดวัวตัวผู้และเถ้าของลูกวัวตัวเมีย ที่ประพรมลงบนคนที่มีมลทิน สามารถชำระเนื้อตัวให้บริสุทธิ์ได้ 14มากยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระโลหิตของพระคริสต์ ผู้ทรงถวายพระองค์เองที่ปราศจากตำหนิแด่พระเจ้าโดยพระวิญญาณนิรันดร์ ก็จะทรงชำระมโนธรรมของเราจากการประพฤติที่เปล่าประโยชน์ เพื่อเราจะปรนนิบัติพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
 15เพราะเหตุนี้ พระคริสต์จึงทรงเป็นคนกลางแห่งพันธสัญญาใหม่ เพื่อให้คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกมาได้รับมรดกนิรันดร์ตามพระสัญญา เพราะความตายที่เกิดขึ้นนั้นไถ่พวกเขาให้พ้นจากบรรดาการล่วงละเมิดที่เกิดภายใต้พันธสัญญาเดิมแล้ว

อรรถาธิบาย

มโนธรรมที่ชัดเจน

บิชอป ทอม ไรท์ กล่าวว่า ‘คนส่วนใหญ่มักมีบางสิ่งที่หนักอยู่ในใจ อาจเป็นสิ่งที่พวกเขาทำหรือพูดไปแล้ว โดยหวังว่าไม่ได้ทำหรือพูดออกมา บางสิ่งหลอกหลอนพวกเขาและทำให้พวกเขากลัวที่จะถูกค้นพบ’ ‘เป็นสิ่งที่วิเศษเหลือเกินที่รู้ว่าการเสียสละของพระเยซู และพระโลหิตที่ประพรมซึ่งเป็นผลมาจากการเสียสละนั้นมีพลังมหาศาล เมื่อเรายอมรับมันด้วยความเชื่อและความไว้วางใจ ล้างทุกคราบสกปรกจากมโนธรรมเพื่อให้เราสามารถมาหาพระเจ้าได้โดยปราศจากเงาที่กั้นความสัมพันธ์ไว้’

หนังสือพระธรรมฮีบรูอธิบายว่าภายใต้พันธสัญญาเดิม มีเพียงมหาปุโรหิตเท่านั้นที่สามารถเข้าไปในอภิสุทธิสถานได้ ‘ปีละครั้ง (ในวันไถ่บาป) และต้องนำเลือดเข้าไป’ (ข้อ 7) เลือดของเครื่องบูชาแสดงถึงชีวิตของสัตว์ที่ถูกฆ่า (‘ชีวิตอยู่ในเลือด’, เลวีนิติ 17:11) ชีวิตของสัตว์แลกกับผู้ที่ต้องถวายเครื่องบูชา

ปุโรหิตทั้งหลายไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในอภิสุทธิสถาน งานของพวกเขาต้องปฏิบัติในพับพลาชั้นนอก ยกเว้นมีปีละครั้งที่ทางเข้าพระที่นั่งของพระเจ้าถูกห้ามไม่ให้ใครเข้ามา แม้แต่มหาปุโรหิตเอง

เมื่อมหาปุโรหิตได้รับอนุญาตให้เข้าไป เขาก็ได้รับการปกป้องด้วยเลือดที่นำมาถวาย อย่างไรก็ตาม เลือดที่นำมาไถ่บาปนี้ไม่ได้ผลโดยสมบูรณ์ จำเป็นต้องนำเลือดสดมาจึงการเข้าสู่อภิสุทธิสถานใหม่ทุกปี ยิ่งกว่านั้น แม้ว่าเลือดอาจจะนำมาซึ่งการชำระเพียงแค่ภายนอก (ฮีบรู 9:13) แต่มันไม่สามารถชำระ ‘มโนธรรมของผู้ถวาย’ (ข้อ 9) ได้

ในความเป็นจริง มันเป็นเพียง ‘เครื่องหมาย’ (ข้อ 9), ‘การอุปมาที่มองเห็นได้... การเตรียมการชั่วคราวจนกว่าจะมีการชำระทั้งหมด’ (ข้อ 8–10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) สิ่งนี้บ่งบอกมากกว่าที่เห็น สำเร็จโดยพระโลหิตของพระคริสต์

เมื่อพระเยซูเสด็จมา พระองค์ ‘ทรงเลี่ยงเครื่องบูชาที่ประกอบด้วยเลือดแพะและลูกวัว ทรงใช้พระโลหิตของพระองค์เองเป็นค่าไถ่เพื่อปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระครั้งเดียว’ (ข้อ 11–12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) โดยการทำเช่นนี้ ‘พระองค์ได้รวบรวมพระเจ้าและประชากรของพระองค์ในรูปแบบใหม่นี้’ (ข้อ 17, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

สิ่งเหล่านี้หมายถึงอะไรบ้าง?

1. คุณถูกชำระทั้งภายในและภายนอก

พระองค์ทรงทำให้มโนธรรมได้รับการชำระ ‘พระโลหิตของพระคริสต์ชำระชีวิตเราทั้งหมด ทั้งภายในและภายนอก ...ฝ่ายพระวิญญาณ’ (ข้อ 14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

2. คุณถูกปลดปล่อยเป็นอิสระ

‘พระคริสต์ถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาที่ไม่มีตำหนิ ปลดปล่อยเราจากความพยายามที่หมดหวังไปสู่การทำให้พวกเราถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เพื่อเราจะมีชีวิตเพื่อพระเจ้า’ (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

พระวิญญาณบริสุทธิ์และพระโลหิตของพระคริสต์มีความสอดคล้องกัน จอยซ์ ไมเยอร์ เขียนไว้ว่า ‘พระวิญญาณอาจไม่เทลงมาในวันเพ็นเทคอสถ้าพระโลหิตไม่หลั่งออกมาที่ไม้กางเขน’

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ทรงทำสิ่งเป็นไปได้สำหรับข้าพระองค์ มีมโนธรรมที่สะอาดและมีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์ ขอบพระคุณที่จ่ายราคาไถ่บาป ปลดปล่อยข้าพระองค์โดยการหลั่งพระโลหิตของพระองค์

พันธสัญญาเดิม

เอเสเคียล 16:1-63

เจ้าสาวที่ไม่ซื่อสัตย์ของพระเจ้า

 1พระวจนะของพระยาห์เวห์มายังข้าพเจ้าอีกว่า 2“บุตรมนุษย์เอ๋ย จงทำให้เยรูซาเล็มทราบถึงความน่าสะอิดสะเอียนของตน 3และจงกล่าวว่า พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสกับเยรูซาเล็มเช่นนี้ ดั้งเดิมและกำเนิดของเจ้าคือแผ่นดินคนคานาอัน พ่อของเจ้าเป็นคนอาโมไรต์ และแม่ของเจ้าเป็นคนฮิตไทต์ 4พูดถึงการกำเนิดของเจ้า ในวันที่เจ้าเกิดมานั้น เขาไม่ได้ตัดสายสะดือของเจ้า และไม่ได้ล้างเจ้าให้สะอาดด้วยน้ำ ไม่ได้ถูเจ้าด้วยเกลือ และไม่ได้พันเจ้าด้วยผ้า 5ไม่มีดวงตาใครจะปรานีเจ้า หรือจะกรุณาเจ้าจนยอมทำสิ่งเหล่านี้ให้เจ้าแม้เพียงสิ่งเดียว เจ้าถูกโยนทิ้งในพื้นทุ่ง เพราะในวันที่เจ้าเกิดนั้นเจ้าเป็นที่รังเกียจ
 6“แต่เมื่อเราผ่านเจ้าไป เราเห็นเจ้าดิ้นกระแด่วๆ อยู่ในกองเลือดของเจ้า เราก็พูดกับเจ้าในกองเลือดของเจ้าว่า ‘จงมีชีวิตอยู่’ 7เราทำให้เจ้าเหมือนอย่างพืชในท้องทุ่ง เจ้าก็เติบโตและสูงขึ้นจนเป็นสาวเต็มตัว ถันของเจ้าก็ก่อรูปขึ้นมา และขนของเจ้าก็งอก แต่เจ้าเปลือยเปล่าและล่อนจ้อน
8“และเมื่อเราผ่านเจ้าไปอีกครั้งหนึ่งและมองดูเจ้า และดูสิ เจ้าถึงอายุที่รู้จักรักแล้ว เราก็แผ่ชายเสื้อคลุมของเราเหนือเจ้าและปกคลุมความเปลือยเปล่าของเจ้าไว้ เออ เราปฏิญาณต่อเจ้าและทำพันธสัญญากับเจ้า และเจ้าก็เป็นของเรา พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ 9และเราก็เอาเจ้าอาบน้ำ ล้างเลือดจากตัวเจ้า และทาเจ้าด้วยน้ำมัน 10เราแต่งตัวเจ้าด้วยเสื้อปัก และเอารองเท้าหนังอย่างดีสวมให้เจ้า เราหุ้มเจ้าไว้ด้วยผ้าป่านเนื้อละเอียด และคลุมเจ้าด้วยผ้าราคาแพง 11เราแต่งตัวเจ้าด้วยเครื่องประดับ สวมกำไลมือให้เจ้า และสวมสร้อยคอให้เจ้า 12เราเอาห่วงใส่จมูกเจ้า และใส่ตุ้มหูที่หูของเจ้า และสวมมงกุฎไว้บนศีรษะของเจ้า 13เราประดับเจ้าด้วยทองคำและเงิน และเสื้อผ้าของเจ้าก็เป็นผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าราคาแพงและผ้าปัก เจ้ากินแป้งอย่างดี น้ำผึ้งและน้ำมัน เจ้างดงามมากทีเดียว และเจ้าเจริญขึ้นเป็นชนชั้นกษัตริย์ 14ชื่อเสียงของเจ้าก็เลื่องลือไปท่ามกลางประชาชาติในเรื่องความงดงามของเจ้า เพราะความงดงามนั้นก็สมบูรณ์ทีเดียวเนื่องด้วยสง่าราศีที่เรามอบให้เจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้แหละ
 15“แต่เจ้าวางใจในความงดงามของเจ้า และเจ้าเล่นชู้เนื่องด้วยชื่อเสียงของเจ้า เจ้าเป็นชู้กับทุกคนที่ผ่านมา และเจ้าก็เป็นของคนนั้น 16เจ้าเอาเสื้อผ้าบางส่วนของเจ้ามา และเจ้าใช้สร้างปูชนียสถานสูงที่หรูหรา แล้วเจ้าก็เล่นชู้อยู่บนนั้น ไม่ควรมีเรื่องเช่นนี้เลย และต่อไปก็ไม่ควรมี 17เจ้ายังเอาเครื่องรูปพรรณอันงดงามของเจ้า ซึ่งเป็นทองคำของเราและเงินของเราที่เราได้ให้เจ้า มาสร้างเป็นรูปผู้ชายสำหรับเจ้า และเจ้าก็เล่นชู้กับรูปเหล่านั้น 18เจ้าเอาเครื่องแต่งตัวที่เป็นผ้าปักไปห่มรูปเหล่านั้นไว้ และเจ้าวางน้ำมันและเครื่องหอมของเราไว้ข้างหน้ามัน 19ส่วนอาหารที่เราให้เจ้าไว้กิน คือแป้งอย่างดี น้ำมันและน้ำผึ้ง เจ้าก็เอามาวางไว้ข้างหน้ามัน ให้เป็นกลิ่นหอมที่พึงใจ และก็เป็นอย่างนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้แหละ 20ยิ่งกว่านั้นอีก เจ้านำลูกชายของเจ้าและลูกสาวของเจ้า ซึ่งเจ้าคลอดให้เรานั้นไปถวายบูชาแก่พวกมันเพื่อให้มันเผาผลาญ การเล่นชู้ของเจ้าเป็นสิ่งเล็กน้อยอยู่หรือ? 21เจ้าฆ่าลูกของเราแล้วถวายพวกเขาให้แก่รูปเหล่านั้น 22และในการน่าสะอิดสะเอียนของเจ้าและในการเล่นชู้ของเจ้านั้น เจ้าไม่ได้จดจำเวลาที่เจ้ายังเป็นเด็กอยู่ ครั้งเมื่อเจ้าเปลือยเปล่าและล่อนจ้อนและดิ้นกระแด่วๆ อยู่ในกองเลือดของเจ้า
 23“ภายหลังจากความชั่วร้ายทั้งสิ้นของเจ้า (พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสว่า วิบัติ วิบัติแก่เจ้า) 24เจ้าได้สร้างแท่นสำหรับตน และเจ้าก็ทำสถานที่สูงสำหรับตนตามลานเมืองทุกแห่ง 25เจ้าสร้างสถานที่สูงของเจ้าตามหัวถนนทุกแห่ง และเอาความงดงามของเจ้ามาทำการลามก อ้าขาของเจ้าให้ทุกคนที่ผ่านไปมา และเจ้าทวีการเล่นชู้ของเจ้า 26เจ้าเล่นชู้กับคนอียิปต์ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของเจ้าที่มักมากในตัณหา เจ้าทวีการเล่นชู้ของเจ้าเพื่อทำให้เราพิโรธ 27ดูสิ เราจึงเหยียดมือของเราออกต่อสู้เจ้าและลดดินแดนของเจ้าลง และมอบเจ้าไว้ให้กับพวกที่เกลียดชังเจ้าให้ทำตามใจชอบ คือพวกคนฟีลิสเตีย ผู้ซึ่งละอายในความประพฤติที่มักมากในกามของเจ้า 28เจ้ายังเล่นชู้กับคนอัสซีเรียด้วย เนื่องจากเจ้าไม่หนำใจ เออ เจ้าเล่นชู้กับเขาทั้งหลาย ถึงกระนั้นเจ้าก็ยังไม่หนำใจ 29เจ้ายังทวีการเล่นชู้ของเจ้ากับคนเคลเดียคือแผ่นดินของพ่อค้า แม้กับพวกนี้เจ้าก็ไม่หนำใจเช่นกัน
 30“พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสว่า ใจของเจ้าช่างอ่อนแอจริงๆ ในเมื่อเจ้าทำสิ่งเหล่านี้ซึ่งเป็นการกระทำของหญิงแพศยาที่จองหอง 31คือสร้างแท่นไว้ที่หัวถนนทุกแห่ง และสร้างสถานที่สูงของเจ้าไว้ตามลานเมืองทุกแห่ง กระนั้นเจ้าก็ยังไม่เหมือนหญิงแพศยา เพราะเจ้าดูหมิ่นสินจ้าง 32เจ้า ภรรยาที่นอกใจ ดูซิ เจ้ารับคนแปลกหน้ามาแทนที่สามี 33ผู้ชายย่อมให้ของขวัญแก่หญิงแพศยา แต่เจ้ากลับให้สิ่งของแก่คนรักทั้งหมดของเจ้า ให้สินบนล่อเขาทั้งหลายเข้ามาจากทุกด้านเพื่อการเล่นชู้ของเจ้า 34ดังนั้นตัวเจ้าจึงตรงข้ามกับหญิงอื่นในเรื่องการเล่นชู้ของเจ้า ไม่มีใครเข้าหาเจ้าและชักชวนให้เล่นชู้ แต่เจ้ากลับให้สินจ้างในการแพศยา ขณะเมื่อไม่มีใครให้สินจ้างแก่เจ้า เจ้าจึงทำแบบตรงกันข้าม
 35“เพราะเหตุนี้ นางแพศยา จงฟังพระวจนะของพระยาห์เวห์ 36พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่า เพราะเจ้าเททรัพย์สินของเจ้าออกมา และเผยความเปลือยเปล่าของเจ้าในการเล่นชู้ของเจ้ากับพวกคนรักของเจ้า และเพราะรูปเคารพน่าสะอิดสะเอียนทั้งหมดของเจ้า ทั้งเพราะโลหิตลูกของเจ้าที่เจ้าถวายให้แก่รูปเหล่านั้น 37เพราะฉะนั้น ดูสิ เราจะรวบรวมคนรักทั้งหมดของเจ้า ซึ่งเป็นผู้ที่เจ้าเพลิดเพลินด้วย คือทุกคนที่เจ้ารัก และทุกคนที่เจ้าเกลียด เราจะรวบรวมพวกเขามาต่อสู้เจ้าจากรอบด้าน และเราจะเผยความเปลือยเปล่าของเจ้าต่อหน้าพวกเขาเพื่อเขาจะได้เห็นความเปลือยเปล่าทั้งหมดของเจ้า 38และเราจะพิพากษาเจ้าเหมือนพิพากษาหญิงล่วงประเวณีและทำให้โลหิตตก และเราจะนำเอาโลหิตแห่งความโกรธและความหวงแหนมาเหนือเจ้า 39แล้วเราจะมอบเจ้าไว้ในมือของพวกชู้ของเจ้า พวกเขาจะทำลายเพิงหลังคาโค้งของเจ้าลง และทำลายสถานที่สูงของเจ้า เขาจะปลดเสื้อผ้าของเจ้า และเอาเครื่องรูปพรรณอันงดงามของเจ้าไปเสีย เขาจะปล่อยให้เจ้าเปลือยเปล่าและล่อนจ้อน 40เขาทั้งหลายจะนำฝูงชนมาต่อสู้เจ้า และเขาจะขว้างเจ้าด้วยหินและฟันเจ้าด้วยดาบของเขา 41แล้วพวกเขาจะเอาไฟเผาบ้านเรือนของเจ้า และพิพากษาลงโทษเจ้าต่อหน้าผู้หญิงจำนวนมาก เราจะทำให้เจ้าหยุดเล่นชู้ แล้วเจ้าจะไม่ให้สินจ้างอีกต่อไป 42แล้วเราจึงจะให้ความโกรธของเราต่อเจ้าหยุดลง และเราจะหันความหวงแหนไปจากเจ้า แล้วเราจะสงบและไม่พิโรธอีก 43เพราะว่าเจ้าไม่ได้ระลึกถึงวันที่เจ้ายังเป็นสาว แต่ยั่วยุเราด้วยสิ่งเหล่านี้ พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสว่า เพราะฉะนั้น ดูเถิด เราจะลงทัณฑ์เหนือศีรษะเจ้าตามวิถีชีวิตของเจ้า
 “เจ้าได้ประพฤติตัวด้วยความมักมากในกามพร้อมกับสิ่งน่าสะอิดสะเอียนทั้งหมดของเจ้าไม่ใช่หรือ? 44นี่แน่ะ ทุกคนที่ใช้สุภาษิตก็จะใช้สุภาษิตต่อไปนี้กับเจ้า คือ ‘แม่เป็นอย่างไร ลูกสาวก็เป็นอย่างนั้น’ 45เจ้าเป็นลูกสาวของแม่เจ้า ผู้เกลียดชังสามีและลูกๆ ของตน เจ้าเป็นน้องสาวของพี่เจ้า ผู้เกลียดชังสามีและลูกๆ ของตน แม่ของเจ้าเป็นคนฮิตไทต์ พ่อของเจ้าเป็นคนอาโมไรต์ 46และพี่สาวของเจ้าคือสะมาเรีย นางกับลูกสาวอาศัยอยู่ทางเหนือของเจ้า และน้องสาวของเจ้าอาศัยอยู่ทางใต้ของเจ้า คือโสโดมกับลูกสาวของนาง 47เจ้าไม่เพียงดำเนินในทางทั้งหลายของพวกเขา และทำตามการน่าสะอิดสะเอียนของเขา แต่ภายในเวลาเพียงเล็กน้อยเจ้าก็ทรามยิ่งกว่าพวกเขาในบรรดาทางทั้งหมดของเจ้า 48พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสว่า เรามีชีวิตอยู่แน่อย่างไร โสโดมน้องสาวของเจ้ากับลูกสาวของเขา ก็ไม่ได้ทำเท่ากับที่เจ้าและลูกสาวของเจ้าได้ทำ 49ดูสิ ความจองหองนี่แหละคือความผิดบาปของโสโดมน้องสาวเจ้า นางและลูกสาวมีอาหารเหลือเฟือ ทั้งมีความสุขและความสงบ แต่ไม่ยอมช่วยเหลือคนยากจนและคนขัดสน 50พวกเขาเย่อหยิ่งและทำสิ่งน่าสะอิดสะเอียนต่อหน้าเรา ดังนั้นเมื่อเราเห็นแล้ว เราจึงขจัดเขาเสีย 51แม้สะมาเรียก็ไม่ได้ทำบาปถึงครึ่งหนึ่งของเจ้า เจ้าทำสิ่งน่าสะอิดสะเอียนยิ่งกว่าเขาทั้งสอง เจ้าจึงทำให้พี่สาวและน้องสาวของเจ้าดูเหมือนคนชอบธรรม เนื่องด้วยสิ่งน่าสะอิดสะเอียนทั้งหมดที่เจ้าได้ทำนั้น 52เจ้าต้องแบกรับความขายหน้าด้วย เพราะเจ้าทำให้พี่สาวและน้องสาวของเจ้าดูดีขึ้นเมื่อถูกพิพากษา เนื่องด้วยบาปของเจ้าที่เจ้าทำสิ่งน่าสะอิดสะเอียนยิ่งกว่าพวกเขา พวกเขาดูชอบธรรมยิ่งกว่าเจ้า และเจ้าต้องอับอายและแบกรับความขายหน้าด้วย เพราะเจ้าทำให้พี่สาวและน้องสาวดูเหมือนคนชอบธรรม
 53“แต่เราจะฟื้นฟูความรุ่งเรืองของเขา คือความรุ่งเรืองของโสโดมและลูกสาว และความรุ่งเรืองของสะมาเรียและลูกสาว รวมทั้งความรุ่งเรืองของเจ้าพร้อมกับพวกเขาด้วย 54เพื่อว่าเจ้าจะแบกรับความขายหน้าของเจ้า และจะละอายต่อสิ่งที่เจ้าทำมาแล้วทั้งหมดซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจ 55ส่วนน้องสาวของเจ้า คือโสโดมกับลูกสาวของเขาจะกลับสู่สภาพเดิมของพวกเขา และสะมาเรียกับลูกสาวของเขาจะกลับสู่สภาพเดิมของพวกเขา แล้วเจ้ากับลูกสาวของเจ้าก็จะกลับสู่สภาพเดิมของเจ้า 56ในสมัยที่เจ้าจองหองอยู่นั้น โสโดมน้องสาวของเจ้าก็เป็นคำเย้ยหยันในปากของเจ้าไม่ใช่หรือ? 57คือก่อนที่ความชั่วร้ายของเจ้าจะถูกเผยออก บัดนี้เจ้ากลายเป็นเหมือนเขาแล้ว คือเป็นที่เยาะเย้ยของพวกลูกสาวของซีเรียและเพื่อนบ้านทั้งหมดของเขา และของพวกลูกสาวของฟีลิสเตีย คือผู้ที่อยู่รอบๆ ซึ่งดูหมิ่นเจ้า 58เจ้าต้องรับโทษของการมักมากในกามและการน่าสะอิดสะเอียน พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
พันธสัญญานิรันดร์ 59“เออ พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่า เราจะทำกับเจ้าเหมือนอย่างที่เจ้าได้ทำแล้วนั้น เจ้าผู้ดูหมิ่นคำสาบานด้วยการหักพันธสัญญา 60ถึงกระนั้นเราจะระลึกถึงพันธสัญญาของเรา ซึ่งเราทำไว้กับเจ้าในสมัยเมื่อเจ้ายังสาวอยู่ และเราจะสถาปนาพันธสัญญานิรันดร์ไว้กับเจ้า 61แล้วเจ้าจะระลึกถึงวิถีชีวิตของเจ้า และมีความละอาย เมื่อเจ้ารับทั้งพี่สาวและน้องสาวของเจ้า และเรามอบพวกเขาให้เป็นลูกสาวของเจ้า แต่ไม่ใช่ตามพันธสัญญาซึ่งทำไว้กับเจ้า 62เราจะสถาปนาพันธสัญญาของเราไว้กับเจ้า แล้วเจ้าจะทราบว่าเราคือยาห์เวห์ 63เพื่อว่าเจ้าจะจำได้และมีความละอาย เจ้าจะไม่อ้าปากพูดอีกเพราะขายหน้า เมื่อเราลบมลทินบาปในทุกสิ่งที่เจ้าได้ทำมาแล้ว” พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้แหละ

อรรถาธิบาย

ฟื้นฟูความรุ่งเรือง

พระเจ้ารักคุณ ทุกสิ่งที่พระเจ้าทำมาจากความรักที่พระองค์มีต่อคุณ ในคำพยากรณ์เชิงอุปมานี้ที่ความรักที่พระเจ้ามีต่อประชากรของพระองค์เปรียบเสมือนสามีที่มีต่อภรรยา ‘เราดูแลเจ้า… และปกป้องเจ้า เราสัญญากับเจ้าที่รักของเราและจะเข้าสู่พันธสัญญาของการแต่งงานกับเจ้า’ (ข้อ 8, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

การอวยพรของพระเจ้านั้นรวมไปถึงการชำระตน (ข้อ 9), แต่งตัวด้วยผ้าลินินอย่างดี (ข้อ 10), ความสง่างาม (ข้อ 11–13), อาหารอย่างดี (ข้อ 13), ชื่อเสียง (ข้อ 14) และ สง่าราศรี (ข้อ 14)

ถ้อยคำที่น่าสลดใจที่ต่อจากข้อนี้สามารถเกิดได้กับเราเป็นการส่วนตัวหรือในระดับชาติ นั่นคือ ‘แต่เจ้า’ (ข้อ 15) ทั้ง ๆ ที่พระเจ้าได้ทรงกระทำสำเร็จแล้ว พวกเขากลับหันหลังและปฏิเสธพระองค์ และวางใจในความงามของตนและใช้ชื่อเสียงในทางที่ไม่ซื่อสัตย์ (ข้อ 15)

ความบาปมักเริ่มต้นด้วยความไม่เชื่อ วางใจในสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระเจ้า มันนำไปสู่การบูชารูปเคารพ คือ การบูชาสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระเจ้า และจากนั้นบาปก็ทวียิ่งขึ้น (ข้อ 26), ซึ่งมักจะมาจากความตั้งใจที่อ่อนแอของเรา (ข้อ 30)

ผลของบาปคือทำให้เราไม่หนำใจในสิ่งที่ทำ (ข้อ 28–29) และถูกพิพากษาโดยพระเจ้า (ข้อ 30–34) เยรูซาเล็มเปรียบเหมือนภรรยาที่ไม่ซื่อสัตย์ โดยรับใช้รูปเคารพและนำเลือดของลูกหลานมาถวาย (ข้อ 36) เพราะเจ้าหลั่งเลือด เลือดของเจ้าจะต้องหลั่งออก (ข้อ 38) คำว่า ‘เลือด’ ปรากฏเจ็ดครั้งในพระธรรมตอนนี้ (ข้อ 6,9,22,36,38)

ผู้เขียนเปรียบบาปของพวกเขากับบาปของเมืองโสโดม สิ่งที่กล่าวถึงนี้ไม่ใช่บาปทางเพศดั่งเมืองโสโดม แต่เป็น ‘เจ้าอาศัยอยู่กับลูกสาวของเจ้ามีสมบัติมากมาย มีความจองหอง ความละโมบ และเกียจคร้าน โดยไม่สนใจผู้ที่ถูกกดขี่และคนยากจน เจ้าวางท่าและดำเนินชีวิตน่าสะอิดสะเอียด’ (ข้อ 49–50, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

สิ่งเหล่านี้เป็นบาปทั่วไปของสังคมที่เจริญรุ่งเรือง ไม่ว่าจะเป็น ความเย่อหยิ่ง การกินมากเกินไป และการขาดความห่วงใยต่อคนยากจนและคนขัดสน เมื่อคนไม่มีความต้องการ พวกเขามักจะหันหลังให้พระเจ้า บาปที่เลวร้ายที่สุดของพวกเขาคือไม่ยื่นมือเข้าช่วยคนยากจน และคนที่ขัดสน

แต่ทั้งที่มีการทำบาปมากมาย พระเจ้าสัญญาที่จะฟื้นฟูความรุ่งเรืองของโสโดมและความรุ่งเรืองของคนในนั้น (ข้อ 53) พระเจ้าสัญญาพันธสัญญานิรันดร์ (ข้อ 60) และพระเจ้าจะลบบาปมลทิน (ข้อ 63)

คำว่า ‘การลบบาป’ พบในพระธรรมฮีบรู คือ ปกคลุมหีบพันธสัญญาเป็นสัญลักษณ์ของพระกรุณาของพระเจ้า (ฮีบรู 9:5) การลบบาปชี้ให้เห็นความจำเป็นที่ต้องทำเพื่อชำระบาป ซึ่งบอกถึงความจริงสองสิ่ง

ประการแรก ความจริงและความจริงจังของปฏิกิริยาของพระเจ้าต่อความบาป ประการที่สอง ความจริงและความยิ่งใหญ่ของความรักของพระองค์ ซึ่งถวายเครื่องบูชาโดยพระโลหิตของพระเยซู อัครทูตเปาโล ได้เขียนว่า ‘พระบุตรของพระเจ้าทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า’ (กาลาเทีย 2:20) เป็นเรื่องที่ส่วนตัวเช่นนั้น เลือดของพระองค์ได้ทรงประทานให้แก่คุณ พระองค์ทรงแบกรับบาปของคุณ ทรงวายพระชนม์แทนคุณ พระโลหิตของพระองค์ชดใช้บาปของคุณ ทรงเป็นผู้นั้นที่บริจาคโลหิตให้คุณ

คำอธิษฐาน

ขอบพระคุณพระองค์ สำหรับความรักที่ยิ่งใหญ่ ทรงหลั่งพระโลหิต ขอบพระคุณที่ข้าพระองค์รู้ว่าข้าพระองค์เป็นที่รัก ได้รับการอภัยและสามารถมีชีวิตที่มีมโนธรรมที่ชัดเจน

เพิ่มเติมโดยพิพพา

ฮีบรู 9:7

‘…เพื่อบาปที่ประชาชนทำโดยไม่เจตนาด้วย’

ฉันแน่ใจว่าฉันมีบาปที่ทำโดยไม่เจตนาพอ ๆ กับบาปที่ฉันเจตนา!

reader

App

Download The Bible with Nicky and Pippa Gumbel app for iOS or Android devices and read along each day.

reader

อีเมล

Sign up now to receive The Bible with Nicky and Pippa Gumbel in your inbox each morning. You’ll get one email each day.

reader

เว็บไซต์

Subscribe and listen to The Bible with Nicky and Pippa Gumbel delivered to your favourite podcast app everyday.

การอ้างอิง

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

เว็บไซต์นี้จัดเก็บข้อมูล เช่น คุกกี้ เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นและการวิเคราะห์ที่จำเป็นเท่านั้น ดูเพิ่มเติม