ใครคือองค์พระผู้เป็นเจ้าในชีวิตของคุณ?
เกริ่นนำ
โพลีคาร์พ (ค.ศ. 70-156) ดำรงตำแหน่งเป็นบิชอปในช่วงที่มีการข่มเหงคริสเตียน ในขณะที่ท่านอายุ 86 ปี ท่านถูกจับกุมแม้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรมใด ๆ นอกจากการเป็นคริสเตียน ทั้งหมดที่ท่านต้องทำเพื่อหลีกเลี่ยงการทรมานและความตายคือการประกาศว่า 'ซีซาร์เป็นพระเจ้า'
โพลีคาร์พตอบว่า 'ตลอด 86 ปีที่ข้าพเจ้าได้รับใช้พระคริสต์ และพระองค์ไม่เคยทำผิดพลาดใด ๆ กับข้าพเจ้าเลย ข้าพเจ้าจะดูหมิ่นองค์จอมกษัตริย์ที่ทำให้ข้าพเจ้ารอดได้อย่างไร? ' สำหรับโพลีคาร์พแล้ว 'พระเยซูเป็นองค์จอมเจ้านาย (Lord)' ท่านจึงไม่สามารถกล่าวว่า 'ซีซาร์เป็นพระเจ้า' ได้ ท่านยืนหยัดเพื่อพระคริสต์ และปฏิเสธที่จะประนีประนอมในความเชื่อของท่าน และถูกมัดไว้ที่เสาแล้วเผาทั้งเป็นในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 156
พันธสัญญาเดิมเรียกพระเจ้าว่า 'องค์จอมเจ้านาย' ในพันธสัญญาใหม่สำหรับวันนี้ เราเห็นที่มาของคำกล่าวอันสุดพิเศษว่า 'พระเยซู คือ องค์พระผู้เป็นเจ้า!'
สดุดี 144:1-8
คำอธิษฐานขอทรงช่วยชาติให้พ้นภัยและให้มั่นคง
ของดาวิด
1สาธุการแด่พระยาห์เวห์ พระศิลาของข้าพระองค์
ผู้ทรงฝึกมือของข้าพระองค์ให้ทำสงคราม
และฝึกนิ้วมือของข้าพระองค์ให้ทำศึก
2ทรงเป็นผู้อารักขาและป้อมปราการของข้าพระองค์
ทรงเป็นที่กำบังอันแข็งแกร่ง และผู้ช่วยกู้ของข้าพระองค์
ทรงเป็นโล่ของข้าพระองค์ และทรงเป็นผู้ซึ่งข้าพระองค์เข้าลี้ภัย
ผู้ทรงปราบชนชาติทั้งหลายให้อยู่ใต้ข้าพระองค์
3ข้าแต่พระยาห์เวห์ มนุษย์เป็นอะไรเล่า ซึ่งพระองค์เอาพระทัยใส่เขา?
บุตรของมนุษย์เป็นอะไรเล่า ซึ่งพระองค์ทรงคิดถึงเขา?
4มนุษย์เป็นเหมือนลมหายใจ
วันเวลาของเขาเหมือนเงาที่ผ่านไป
5ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงโน้มฟ้าสวรรค์และเสด็จลงมา
และขอทรงแตะต้องภูเขาทั้งหลาย เพื่อให้มีควันขึ้น
6ขอทรงให้สายฟ้าแลบ ทำให้พวกศัตรูกระจัดกระจาย
ขอทรงแผลงศรของพระองค์ ทำให้พวกเขาแตกหนี
7ขอเหยียดพระหัตถ์ของพระองค์จากที่สูง
ขอทรงฉวยและช่วยกู้ข้าพระองค์ให้พ้นจากน้ำมากหลาย
ให้พ้นจากมือคนต่างชาติ
8ผู้ซึ่งปากของเขาพูดเท็จ
และมือขวาของเขาเป็นมือแห่งการหลอกลวง
อรรถาธิบาย
พระเยซู - องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เสด็จลงมาจากสวรรค์
คุณกำลังต่อสู้กับอะไรอยู่บ้างในชีวิต? การทดลอง? ความวิตกกังวล? ความกลัว? ความหดหู่? ปัญหาทางการเงิน? ปัญหาทางด้านสุขภาพ? ปัญหาในการทำงานหรือในความสัมพันธ์?
พระธรรมสดุดีตอนนี้เป็นคำร้องขอความช่วยเหลือก่อนการสู้รบ บริบทแรกเริ่มอาจเป็นการต่อสู้ทางกายภาพ แต่ถ้ามองผ่านพันธสัญญาใหม่ คุณสามารถเห็นในแง่การต่อสู้ฝ่ายวิญญาณ หลายครั้งที่ดูเหมือนว่าพ่ายแพ้ในสงครามฝ่ายวิญญาณ ตัวอย่างเช่น เพื่อชนชาติของเรา แต่อย่ายอมแพ้!
บางทีคุณอาจกำลังเผชิญการสู้รบที่น่าตื่นกลัวในชีวิตของคุณเอง ดาวิดสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า 'พระศิลา', 'ป้อมปราการ', 'ที่กำบังอันแข็งแกร่ง', 'ผู้ช่วยกู้', 'ผู้ช่วยกู้', ‘ทรงเป็นผู้ซึ่งข้าพระองค์เข้าลี้ภัย' (ข้อ 1-2)
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจ และพระองค์ยังทรงเป็น ‘ทรงเป็นผู้อารักขาข้าพระองค์' (ข้อ2) พระองค์ทรงรวมคุณไว้ในแผนการของพระองค์ 'ผู้ทรงฝึกมือของข้าพระองค์ให้ทำสงคราม' (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) คุณเป็นหุ้นส่วนกับพระเจ้า และแน่นอนว่าพระเจ้าทรงเป็นหุ้นส่วนหลัก แต่คุณก็มีส่วนที่จะต้องลงมือทำเช่นกัน
ดาวิดกล่าวต่อไปว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงโน้มฟ้าสวรรค์และเสด็จลงมา...ขอทรงเหยียดพระหัตถ์ของพระองค์จากที่สูง ขอทรงฉวยและช่วยกู้ข้าพระองค์' (ข้อ 5ก, 7) นี่คือสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำ ซึ่งเราได้สรรเสริญกันในช่วงเวลาแห่งคริสต์มาส องค์พระเยซูพระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์เพื่อมาปลดปล่อยและช่วยกอบกู้เรา
ไม่ว่าวันนี้คุณจะกำลังต่อสู้กับอะไรอยู่ก็ตาม จงใช้เวลากับพระเยซู สรรเสริญพระองค์ในสิ่งที่พระองค์ทรงเป็น ร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์และวางใจว่าพระองค์จะทรงปลดปล่อยคุณจากสิ่งเหล่านั้น
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์วิงวอนต่อพระองค์ พระเจ้าผู้ทรงรัก ผู้เป็นกำบังแข็งแกร่ง ป้อมปราการ ผู้อารักขา ที่ลี้ภัย ผู้กอบกู้ โปรดช่วยข้าพระองค์ด้วย พระเจ้าข้า!
วิวรณ์ 7:1-17
คนอิสราเอล หนึ่งแสนสี่หมื่นสี่พันคนรับการประทับตรา
1หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์สี่องค์ยืนอยู่ที่มุมทั้งสี่ของแผ่นดินโลก ยับยั้งลมทั้งสี่ของแผ่นดินโลกไว้ เพื่อไม่ให้ลมพัดบนบก บนทะเลหรือบนต้นไม้ทุกต้น 2แล้วข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งปรากฏขึ้นมาจากทิศตะวันออก ถือตราประทับของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ และท่านร้องด้วยเสียงดังต่อทูตทั้งสี่ผู้ซึ่งได้รับมอบอำนาจให้ทำอันตรายแก่แผ่นดินและทะเลนั้น 3ว่า “จงอย่าทำอันตรายแผ่นดิน ทะเล หรือต้นไม้ จนกว่าเราจะได้ประทับตราบนหน้าผากของบรรดาผู้รับใช้ของพระเจ้าของเรา” 4และข้าพเจ้าได้ยินว่าจำนวนผู้ที่ได้รับการประทับตรามี 144,000 คน พวกที่ได้รับการประทับตราแล้วนั้นมาจากทุกเผ่าในอิสราเอล
5พวกที่มาจากเผ่ายูดาห์
ที่ได้รับการประทับตรามี\t12,000 คน
พวกที่มาจากเผ่ารูเบนมี\t12,000 คน
พวกที่มาจากเผ่ากาดมี\t12,000 คน
6พวกที่มาจากเผ่าอาเชอร์มี\t12,000 คน
พวกที่มาจากเผ่านัฟทาลีมี\t12,000 คน
พวกที่มาจากเผ่ามนัสเสห์มี\t12,000 คน
7พวกที่มาจากเผ่าสิเมโอนมี\t12,000 คน
พวกที่มาจากเผ่าเลวีมี\t12,000 คน
พวกที่มาจากเผ่าอิสสาคาร์มี\t12,000 คน
8พวกที่มาจากเผ่าเศบูลุนมี\t12,000 คน
พวกที่มาจากเผ่าโยเซฟมี\t12,000 คน
พวกที่มาจากเผ่าเบนยามิน
ที่ได้รับการประทับตรามี\t12,000 คน
มหาชนจากทุกประชาชาติ
9หลังจากนั้นมา ข้าพเจ้าเห็น และนี่แน่ะ มหาชนที่ไม่มีใครนับจำนวนได้ ที่มาจากทุกประชาชาติ ทุกเผ่า ทุกชนชาติและทุกภาษา ยืนอยู่หน้าพระที่นั่งและเฉพาะพระพักตร์พระเมษโปดก พวกเขาสวมเสื้อผ้าสีขาว และถือใบตาลอยู่ในมือ 10พวกเขาร้องเสียงดังว่า
“ความรอดขึ้นอยู่กับพระเจ้าของเราผู้ประทับบนพระที่นั่ง
และขึ้นอยู่กับพระเมษโปดก”
11และทูตสวรรค์ทั้งหมดที่ยืนอยู่รอบพระที่นั่ง รอบผู้อาวุโส และรอบสิ่งมีชีวิตทั้งสี่นั้น ก็ทรุดตัวลงหน้าพระที่นั่ง และนมัสการพระเจ้า 12และกล่าวว่า
“อาเมน คำสดุดี พระสิริ พระปัญญา
คำขอบพระคุณ พระเกียรติ ฤทธานุภาพ และ
พระกำลัง จงมีแด่พระเจ้าของเราตลอดไปเป็นนิตย์
อาเมน”
13แล้วคนหนึ่งในพวกผู้อาวุโสนั้นถามข้าพเจ้าว่า “คนที่สวมเสื้อผ้าสีขาวเหล่านี้คือใคร? และมาจากไหน?” 14ข้าพเจ้าตอบท่านว่า “ท่านเจ้าข้า ท่านเองก็ทราบอยู่แล้ว” ท่านจึงบอกข้าพเจ้าว่า “คนเหล่านี้เป็นคนที่มาจากความยากลำบากครั้งยิ่งใหญ่ พวกเขาชำระล้างเสื้อผ้าของเขาด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดกจนขาวสะอาด
15เพราะเหตุนี้ เขาทั้งหลายจึงได้อยู่หน้าพระที่นั่งของพระเจ้า
และปรนนิบัติพระองค์ในพระวิหารของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน
และพระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งจะทรงคุ้มครองพวกเขา
16พวกเขาจะไม่หิวหรือกระหายอีกเลย
ดวงอาทิตย์และความร้อนจะไม่แผดเผาเขาอีกต่อไป
17เพราะว่าพระเมษโปดกผู้ทรงอยู่กลางพระที่นั่งนั้นจะทรงเลี้ยงดูพวกเขา
และจะทรงนำเขาไปยังน้ำพุแห่งชีวิต
และพระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากตาของเขาทั้งหลาย”
อรรถาธิบาย
พระเยซู - องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นศูนย์กลางแห่งการนมัสการ
หนึ่งในจุดเด่นของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกคือ พิธีเปิดที่รวม 225 ประเทศเข้าด้วยกันในการเฉลิมฉลองด้วยความชื่นชมยินดี แต่นี่เป็นส่วนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่ถูกพูดถึงในตอนนี้ เราได้เห็นการรวมกันของทุกชนชาติ ทุกเผ่า ประชาชน และทุกภาษาที่ตรงหน้าพระที่นั่งของพระเจ้า
ตราประทับทั้ง 6 ที่เราดูกันเมื่อวานทำให้เราเห็นภาพทั่ว ๆ ไปของประวัติศาสตร์ระหว่างการเสด็จมาครั้งที่ 1 และ 2 ของพระเยซู พรุ่งนี้ เราจะอ่านการเปิดตราประทับดวงที่ 7
ในการหยุดพักช่วงกลางของวิวรณ์บทที่ 7 มีการยืนยันที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งกับประชากรของพระเจ้า 'จงอย่าทำอันตรายแผ่นดิน ทะเล หรือต้นไม้ จนกว่าเราจะได้ประทับตราบนหน้าผากของบรรดาผู้รับใช้ของพระเจ้าของเรา' (ข้อ 3) ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นรอบตัวคุณ ไม่ต้องกังขาเรื่องความมั่นคงนิจนิรันดร์ของคุณ เพราะคุณได้รับ 'ตราประทับของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่' (ข้อ 2)
ตัวเลข 144,000 ถูกอ้างถึงในข้อ 1-8 และฝูงชนที่นับไม่ถ้วนใน ข้อ 9–17 อาจไม่ใช่สองกลุ่มที่แยกจากกัน แต่เป็นภาพของกลุ่มเดียวกันจากสองมุมที่ต่างกัน ในตอนแรก ประชากรของพระเจ้าถูกรวมอยู่บนโลก และต่อมา พวกเขาถูกรวมไว้จำเพาะพระพักตร์พระเจ้าในสวรรค์ ซึ่งการต่อสู้และความยากลำบากกลายเป็นอดีตไป
ประชากรของพระเจ้าถูกบรรยายว่าเป็น ผู้ที่ได้ชำระล้างเครื่องนุ่งห่มและอยู่ในชุดขาว 'ด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดก' (ข้อ 14) นี่เป็นตัวอย่างของการใช้ภาษาเชิงอุปมาของการทำนายถึงยุคสุดท้ายในพระธรรมวิวรณ์ และในบทนี้อย่างเจาะจง เครื่องนุ่งห่มไม่สามารถถูกทำให้ขาวได้ด้วยเลือดได้! อย่างไรก็ตาม นี่คือภาพเปรียบเทียบว่า คุณได้รับการชำระให้สะอาดโดยพระโลหิตแห่งพระเยซู
ดังนั้น ตัวเลข 144,000 ไม่ใช่จำนวนที่แท้จริงแต่เป็นสัญลักษณ์ของประชากรทั้งสิ้นของพระเจ้าตลอดประวัติศาสตร์ ยอห์นเห็นพวกเขาเป็น 'มหาชนที่ไม่มีใครนับจำนวนได้ ที่มาจากทุกประชาชาติ ทุกเผ่า ฝูงชนและทุกภาษา ยืนอยู่หน้าพระที่นั่งและเฉพาะพระพักตร์พระเมษโปดก' (ข้อ 9)
บนฟ้าสวรรค์ ความแตกต่างไม่ได้ถูกกำจัดออกไป แต่ถูกนำมาซึ่งการเฉลิมฉลอง
ฝูงชน 'สวมเสื้อผ้าสีขาว และถือใบตาลอยู่ในมือ' (ข้อ 9) พวกเขาร้องเพลงแห่งการสรรเสริญนมัสการต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า (ข้อ 10) ทูตสวรรค์เข้าร่วมกับมหาชนและนมัสการพระเจ้า (ข้อ 11-12) ในที่สุดทั้งคริสตจักรร่วมกับทูตสวรรค์ได้นมัสการพระเยซู คณะนักร้องประสานเสียงและวงดนตรีออเคสตร้าได้ทำการซ้อมใหญ่สำหรับคอนเสิร์ตแห่งฟ้าสวรรค์
'เพราะว่าพระเมษโปดกผู้ทรงอยู่กลางพระที่นั่งนั้นจะทรงเลี้ยงดูพวกเขา' (ข้อ 17ก) นี่เป็นการสลับหน้าที่ที่พิเศษอย่างยิ่ง พระเมษโปดกจะกลายเป็นผู้เลี้ยงแกะ คุณจะไม่ต้องหิวโหยหรือกระหายอีกต่อไป คุณจะได้รับความอิ่มเอมจาก 'น้ำพุแห่งชีวิตและพระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากตา' ของคุณ (ข้อ 17ข) จะไม่มีความเจ็บปวด หรือการทนทุกข์ หรือการสูญเสียหรือความเศร้าโศก
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่ข้าพระองค์สามารถมองไปข้างหน้าสู่การทรงสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้าตลอดนิรันดร์ ขอบคุณที่พระองค์จะทรงเติมข้าพระองค์ให้เต็ม ที่จะไม่หิวโหยหรือกระหายอีก และจะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากดวงตาของข้าพระองค์
มาลาคี 2:17-4:6
17ท่านได้ทำให้พระยาห์เวห์อ่อนระอาพระทัยด้วยคำพูดของท่าน แต่ท่านยังจะกล่าวว่า “พวกเราทำให้พระองค์อ่อนพระทัยอย่างไร?” ก็โดยกล่าวว่า “ทุกคนที่ทำชั่วก็เป็นคนดีในสายพระเนตรพระยาห์เวห์ และพระองค์พอพระทัยคนเหล่านั้น” หรือโดยถามว่า “พระเจ้าแห่งความยุติธรรมอยู่ที่ไหน?”
มาลาคี 3
1พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า “นี่แน่ะ เราส่งทูตของเราไปเพื่อตระเตรียมหนทางไว้ข้างหน้าเรา และองค์เจ้านายผู้ซึ่งเจ้าแสวงหานั้นจะเสด็จมายังพระวิหารของพระองค์อย่างกะทันหัน ทูตแห่งพันธสัญญาผู้ซึ่งเจ้าพอใจนั้น ดูซี ท่านกำลังมาแล้ว 2แต่ใครจะทนอยู่ได้ในวันที่ท่านมา? และใครจะยืนมั่นอยู่ได้เมื่อท่านปรากฏตัว?
“เพราะว่าท่านเป็นประดุจไฟถลุงแร่ และประดุจสบู่ของช่างซักฟอก 3ท่านจะนั่งลงอย่างช่างถลุงเงินและช่างชะล้างเงิน และท่านจะชำระบุตรหลานของเลวีให้บริสุทธิ์ และถลุงพวกเขาอย่างถลุงทองคำและถลุงเงิน จนกว่าเขาจะนำเครื่องบูชามาถวายแด่พระยาห์เวห์ด้วยความชอบธรรม 4แล้วเครื่องบูชาของยูดาห์และเยรูซาเล็มจะเป็นที่พอพระทัยพระยาห์เวห์ดังในอดีต และดังในปีก่อนๆ
5“พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า แล้วเราจะมาใกล้เจ้าเพื่อการพิพากษา เราจะเป็นพยานที่รวดเร็วที่กล่าวโทษนักวิทยาคม พวกผิดประเวณี ผู้สบถเท็จ ผู้บีบบังคับลูกจ้างในเรื่องค่าจ้าง ผู้บีบบังคับแม่ม่ายและลูกกำพร้า ผู้ผลักไสคนต่างด้าวให้ไปเสีย และผู้ที่ไม่ยำเกรงเรา
6“เพราะว่าเราคือพระยาห์เวห์ ไม่มีผันแปร โอ บุตรยาโคบเอ๋ย เจ้าทั้งหลายจึงไม่ถูกทำลายหมด 7เจ้าได้หันเหไปเสียจากกฎเกณฑ์ของเราและไม่ได้รักษาไว้ ตั้งแต่ครั้งสมัยบรรพบุรุษของเจ้า พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า เจ้าจงกลับมาหาเรา และเราจะกลับมาหาเจ้าทั้งหลาย แต่เจ้ากล่าวว่า ‘เราทั้งหลายจะทำอย่างไรถึงจะได้กลับมา?’
อย่าฉ้อโกงพระเจ้า
8“มนุษย์จะฉ้อโกงพระเจ้าหรือ? ที่จริงเจ้าทั้งหลายได้ฉ้อโกงเรา แต่เจ้ากล่าวว่า ‘พวกเราฉ้อโกงพระเจ้าอย่างไร?’ ก็ฉ้อโกงในเรื่องทศางค์และเครื่องบูชานั่นซี 9เจ้าทั้งหลายต้องถูกสาปแช่งด้วยคำสาปแช่ง เพราะเจ้าฉ้อโกงเราทั้งชาติ 10พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า จงนำทศางค์เต็มขนาดมาไว้ในคลัง เพื่อว่าจะมีอาหารในนิเวศของเรา จงลองดูเราในเรื่องนี้ว่า เราจะเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ให้เจ้า และเทพรอย่างล้นไหลมาให้เจ้าหรือไม่ 11เราจะขจัดพวกตั๊กแตนให้แก่เจ้า เพื่อว่ามันจะไม่ทำลายผลแห่งพื้นดินของเจ้า และผลองุ่นในสวนของเจ้าจะไม่ร่วง พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ 12แล้วประชาชาติทั้งสิ้นจะเรียกเจ้าว่า ‘ผู้ที่ได้รับพระพร’ เพราะว่าแผ่นดินของเจ้าจะเป็นแผ่นดินที่น่าพึงใจ พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ
13“พระยาห์เวห์ตรัสว่า ถ้อยคำของเจ้านั้นใส่ร้ายเรา เจ้ายังกล่าวว่า ‘เราทั้งหลายได้กล่าวใส่ร้ายพระองค์อย่างไร?’ 14เจ้าได้กล่าวว่า ‘ที่จะปรนนิบัติพระเจ้าก็เปล่าประโยชน์ ที่พวกเราจะรักษาพระบัญชาของพระองค์ หรือดำเนินอย่างคนไว้ทุกข์เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์จอมทัพนั้นจะเกิดผลดีอะไร? 15บัดนี้พวกเราถือว่าคนอวดดีเป็นคนได้รับพร เออ คนที่ประกอบการอธรรมก็เจริญขึ้นด้วย และคนที่ทดลองพระเจ้าก็พ้นโทษไป’ ”
บำเหน็จของคนชอบธรรม
16แล้วคนเหล่านั้นที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์จึงพูดคุยกัน พระยาห์เวห์ทรงฟังและทรงได้ยิน มีหนังสือม้วนหนึ่งสำหรับบันทึกความจำเฉพาะพระพักตร์พระองค์ คือบันทึกชื่อผู้ที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์และยกย่องพระนามของพระองค์ไว้ 17พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า “เขาทั้งหลายจะเป็นคนของเรา เป็นกรรมสิทธิ์พิเศษของเรา ในวันที่เราจะประกอบกิจ และเราจะเมตตาคนเหล่านี้ดังชายที่เมตตาบุตรผู้ปรนนิบัติเขา 18แล้วเจ้าจะสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างคนชอบธรรมและคนอธรรม ระหว่างคนที่ปรนนิบัติพระเจ้ากับคนที่ไม่ปรนนิบัติพระองค์ได้อีกครั้งหนึ่ง
มาลาคี 4
วันแห่งพระเจ้าที่จะมาถึง
1“พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า นี่แน่ะ วันนั้นจะมาถึง คือวันที่จะเผาผลาญเหมือนเตาอบ เมื่อคนที่เย่อหยิ่งทั้งสิ้น และคนที่ประกอบการอธรรมทั้งหมดจะเป็นเหมือนตอข้าว วันที่จะมานั้นจะไหม้เขาหมด จนไม่มีรากหรือกิ่งเหลืออยู่เลย 2แต่สำหรับคนเหล่านั้นที่ยำเกรงนามของเรา ดวงอาทิตย์แห่งความชอบธรรมซึ่งมีปีกรักษาโรคภัยได้ จะปรากฏขึ้น แล้วเจ้าจะกระโดดโลดเต้นออกไปเหมือนลูกวัวออกไปจากคอก 3และพวกเจ้าจะเหยียบย่ำคนอธรรม เพราะว่าพวกเขาจะเป็นเหมือนขี้เถ้าที่ใต้ฝ่าเท้าของเจ้า ในวันนั้นเมื่อเราประกอบกิจ พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ
4“จงจดจำธรรมบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของเรา ทั้งกฎเกณฑ์และกฎหมายซึ่งเราได้บัญชาเขาไว้ที่ภูเขาโฮเรบสำหรับอิสราเอลทั้งสิ้น
5“นี่แน่ะ เราจะส่งเอลียาห์ผู้เผยพระวจนะมายังเจ้าก่อนวันแห่งพระยาห์เวห์ คือวันที่ใหญ่ยิ่งและน่าสะพรึงกลัวจะมาถึง 6และท่านผู้นั้นจะทำให้จิตใจของพ่อหันไปหาลูก และจิตใจของลูกหันไปหาพ่อ ไม่อย่างนั้น เราจะมาโจมตีแผ่นดินนั้นด้วยคำสาปแช่ง”
อรรถาธิบาย
พระเยซู - องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงทำให้บริสุทธิ์และอวยพระพร
ในพระคัมภีร์ของคริสเตียน พระธรรมเล่มสุดท้ายในพันธสัญญาเดิมคือพระธรรมมาลาคี ซึ่งจบเล่มด้วยการคาดการณ์ถึงการมาของผู้ซึ่งจะเตรียมทางให้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า 'เราจะส่งเอลียาห์ผู้เผยพระวจนะมายังเจ้าก่อนวันแห่งพระยาห์เวห์ คือวันที่ใหญ่ยิ่งและน่าสะพรึงกลัวจะมาถึง และท่านผู้นั้นจะทำให้จิตใจของพ่อหันไปหาลูก และจิตใจของลูกหันไปหาพ่อ' (4:5-6)
นี่คือการบรรยายถึงยอห์นผู้ให้บัพติศมา (ลูกา 1:17) พระเยซูกล่าวว่าเขาคือเอลียาห์ผู้ที่จะมานั้น (มัทธิว 11:14; ดูใน มัทธิว 17:12-13; มาระโก 9:12-13)
ประชาชนถูกเรียกให้เตรียมพร้อมสำหรับวันแห่งการมาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งจะเป็นดั่ง 'ไฟถลุงแร่' (มาลาคี 3:2) พระเจ้าต้องการที่จะเปลี่ยนท่าที ความปรารถนา ความคิด และบทสนทนาต่าง ๆ เพื่อที่เราจะกำจัดความเห็นแก่ตัวและการคิดถึงแต่ตัวเองออกไปจากชีวิต ดังที่จอยซ์ ไมเยอร์เขียนไว้ว่า 'เชื่อฉันเถอะค่ะ การเอาความเห็นแก่ตัวออกไปจากชีวิตนั้นต้องใช้ไฟ (ช่วงเวลาที่ยากลำบาก) และต้องใช้เยอะเสียด้วย แต่ในตอนสุดท้ายมันก็คุ้มค่า'
ฟังการทรงเรียกให้กลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า (ข้อ 7) จงจัดการในเรื่องการให้ของคุณอย่างเจาะจง (ข้อ 8-12) ท่าทีของคุณต่อเงินคือตัวชี้วัดอนาคตทั้งชีวิตของคุณ
'ทศางค์' เป็นเหมือนภาษีรายรับประเภทหนึ่ง ที่ใช้ในการทะนุบำรุงพระวิหารและเจ้าหน้าที่นอกเหนือจากนั้นประชาชนได้ถวายด้วยวิธีที่แตกต่างกัน ผ่านการต้อนรับขับสู้ ของขวัญที่แจกจ่ายให้กับคนยากจน และการให้ 'ด้วยความเต็มใจ'
ผู้เผยวจนะกล่าวโทษพวกเขาว่าฉ้อโกงพระเจ้า เพราะพวกเขาล้มเหลวในการถวายทศางค์ พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า 'จงนำทศางค์เต็มขนาดมาไว้ในคลัง เพื่อว่าจะมีอาหารในนิเวศของเรา จงลองดูเราในเรื่องนี้ว่า เราจะเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ให้เจ้า และเทพรอย่างล้นไหลมาให้เจ้าหรือไม่' (ข้อ 10)
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าการให้นั้นสำคัญมากเพียงใดในสายพระเนตรของพระเจ้า จงให้ความสำคัญกับการถวายแก่คริสตจักรที่คุณเข้าร่วมอยู่ ซึ่งมีระดับความสำคัญเดียวกับพระวิหาร ถ้าคุณไม่สามารถใจกว้างต่อผู้อื่นได้ ก็เท่ากับว่าคุณกำลัง 'ฉ้อโกงพระเจ้า' ถ้าในฐานะชุมชนคริสตจักร ทุกคนล้วนถวายด้วยใจกว้างขวาง แล้วคุณจะได้เห็นว่าพระเจ้าจะทรง 'เปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ให้เจ้า และเทพรอย่างล้นไหลมาให้เจ้าหรือไม่' (ข้อ 10)
ปรากฏว่าพวกเขาจัดลำดับความสำคัญอย่างถูกต้อง 'แล้วคนเหล่านั้นที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์จึงพูดคุยกัน พระยาห์เวห์ทรงฟังและทรงได้ยิน มีหนังสือม้วนหนึ่งสำหรับบันทึกความจำเฉพาะพระพักตร์พระองค์ คือบันทึกชื่อผู้ที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์และยกย่องพระนามของพระองค์ไว้' (ข้อ 16) ผมชอบข้อนี้ บางครั้งเวลาที่คุณรวมตัวกัน คุณอาจไม่ได้รวมตัวกันเพื่ออธิษฐาน แต่ทว่า 'พระยาห์เวห์ทรงฟังและทรงได้ยิน' เพราะว่าพวกเขา 'เกรงกลัวพระยาห์เวห์และยกย่องพระนามของพระองค์' (ข้อ 16)
พระองค์ทรงสัญญาว่า 'แต่สำหรับคนเหล่านั้นที่ยำเกรงนามของเรา ดวงอาทิตย์แห่งความชอบธรรมซึ่งมีปีกรักษาโรคภัยได้ จะปรากฏขึ้น แล้วเจ้าจะกระโดดโลดเต้นออกไปเหมือนลูกวัวออกไปจากคอก' (4:2) ไม่ว่าความเจ็บปวด ความแตกร้าว หรือบาดแผลของคุณจะเป็นเช่นไร พระเจ้าทรงสัญญาที่จะนำการรักษา การฟื้นฟู และความสมบูรณ์เป็นหนึ่งเดียวมาสู่ชีวิตของคุณ
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยเราที่จะเป็นชุมชนแห่งความมีน้ำใจ ขอบพระคุณที่ทรงอยู่กับเราในการต่อสู้ประจำวันเรา และที่วันหนึ่งเราจะนมัสการพระองค์ตลอดไป ร่วมกับมหาชนนั้น และประกาศว่า 'พระเยซู คือ องค์พระผู้เป็นเจ้า!'
เพิ่มเติมโดยพิพพา
วิวรณ์ 7:17ข
'และพระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากดวงตาของเขาทั้งหลาย'
ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงทำให้ทุกอย่างดีขึ้นในท้ายที่สุด
App
Download The Bible with Nicky and Pippa Gumbel app for iOS or Android devices and read along each day.
อีเมล
Sign up now to receive The Bible with Nicky and Pippa Gumbel in your inbox each morning. You’ll get one email each day.
เว็บไซต์
Subscribe and listen to The Bible with Nicky and Pippa Gumbel delivered to your favourite podcast app everyday.
การอ้างอิง
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)