วัน 356

พระหัตถ์พระเจ้าอยู่กับคุณ

ปัญญานิพนธ์ สดุดี 145:13ข-21
พันธสัญญาใหม่ วิวรณ์ 13:1ข-18
พันธสัญญาเดิม เอสรา 7:11-8:14

เกริ่นนำ

มือนั้นมีความสำคัญมาก ในวันแต่งงานของลูกสาวผม ผมจับมือเธอและส่งต่อให้กับผู้ที่จะดูแลเธอต่อไป (ซึ่งได้กลายเป็นลูกเขยของเราแล้ว) มือของเขา (ในวัตถุประสงค์เหล่านี้) เป็นตัวแทนของพระหัตถ์ของพระเจ้า ซึ่งทรงจับมือของเธอและสามีของเธอ นี่เป็นสัญลักษณ์ว่า ผมมอบเธอให้กับพระเจ้าและพระเจ้ามอบเธอให้กับสามีของเธอ ส่วนที่เป็นสิ่งสำคัญในพิธีแต่งงาน คือ การจับมือกัน

ในระดับหนึ่ง มือของคุณก็คืออุ้งมือของคุณและนิ้วทั้งห้า แต่เมื่อเรานำคำว่า ‘มือ’ มาใช้ มักจะสื่อถึงอะไรมากกว่ามือที่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ‘มือ’ สามารถเป็นภาพของการลงมือทำ การดูแล และการครอบครอง

พระเจ้าทรงใช้พระหัตถ์ ดั่งที่เราได้อ่านตอนที่พระเยซูทรงรักษาคนป่วยผ่านการวางพระหัตถ์ หรือแม้แต่เพียงสัมผัสพวกเขาด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ (ตัวอย่าง มาระโก 6:5, 8:23) ในตอนอื่นๆ พระองค์วางพระหัตถ์บนประชาชนเพื่ออวยพรเขา (10:16) พระองค์บอกเหล่าสาวกของพระองค์ว่า มือของพวกเขานั้นสามารถใช้รักษาคนป่วยได้ (16:18) แน่นอนว่า ประชาชนได้รับการรักษาผ่านการวางมือของพวกเขา (ตัวอย่าง กิจการ 8:17–18) พวกเขาได้รับการเติมเต็มโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ (9:17, 19:6) หรือได้รับของประทานผ่านการวางมือ (2 ทิโมธี 1:6)

แล้ว ‘พระหัตถ์ของพระเจ้า?’ ล่ะ หมายความว่าอะไร ? ในพระคัมภีร์ ‘พระหัตถ์ของพระเจ้า’ หมายถึง สิ่งที่ล้ำลึก เอสรากล่าว่า ‘เพราะพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพระองค์นั้นอยู่กับข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงมีความกล้าหาญ....’ (เอสรา 7:28) พระหัตถ์ของพระเจ้าทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรมอยู่กับคุณ ทรงนำ ทรงให้ทิศทาง ทรงหนุนใจ ทรงปกป้อง ทรงเสริมกำลังคุณและประทานความกล้าหาญแก่คุณ

ปัญญานิพนธ์

สดุดี 145:13ข-21

พระยาห์เวห์ทรงซื่อสัตย์ตามพระวจนะทั้งสิ้นของพระองค์
 และทรงพระเมตตาตามกิจการทั้งสิ้นของพระองค์
14พระยาห์เวห์ทรงประคองทุกคนที่กำลังจะล้ม
 และทรงพยุงทุกคนที่โน้มตัวลงให้ลุกขึ้น
15ดวงตาทุกดวงมองดูพระองค์ด้วยความหวัง
 และพระองค์ประทานอาหารให้ตามเวลา
16พระองค์แบพระหัตถ์ออก
 และทรงให้สรรพสิ่งที่มีชีวิตอิ่มตามความปรารถนา
17พระยาห์เวห์ทรงชอบธรรมในพระมรรคาทั้งสิ้นของพระองค์
 และทรงเอ็นดูในการกระทำทั้งสิ้นของพระองค์
18พระยาห์เวห์สถิตใกล้ทุกคนที่ร้องทูลพระองค์
 คือทุกคนที่ร้องทูลพระองค์ด้วยใจจริง
19พระองค์ประทานตามความปรารถนาของบรรดาผู้ที่ยำเกรงพระองค์
 พระองค์ทรงฟังเสียงร้องทูลของพวกเขาด้วย และทรงช่วยเขาให้รอด
20พระยาห์เวห์ทรงเฝ้ารักษาทุกคนที่รักพระองค์
 แต่พระองค์จะทรงทำลายคนอธรรมทุกคน
21ปากของข้าพเจ้าจะกล่าวสรรเสริญพระยาห์เวห์
 และทุกชีวิตจะถวายสาธุการแด่พระนามบริสุทธิ์ของพระองค์เป็นนิตย์นิรันดร์

อรรถาธิบาย

พระหัตถ์พระเจ้าแบออกและใจกว้าง

‘พระองค์ทรงแบพระหัตถ์ออกและทรงให้สรรพสิ่งที่มีชีวิตอิ่มตามความปรารถนา’ (ข้อ 16) ภาพเปรียบเทียบนี้ เป็นภาพพระเจ้าผู้มีพระคุณ พระองค์ทรงแบพระหัตถ์ออกเพื่อให้คุณได้อิ่มเอมในความปรารถนา ตอนนี้อยู่ในช่วงกลางของพระธรรมสดุดีที่พรรณาถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าและความสัตย์ซื่อของพระองค์

บทกลอนที่โรเบิร์ต บราวนิ่งประพันธ์ไว้ กล่าวว่า ‘ผมได้ใช้ชีวิต ได้เห็นพระหัตถ์ของพระเจ้าตลอดชั่วชีวิต และทั้งปวงล้วนดีเลิศ’ ‘พระหัตถ์ของพระเจ้าประคองทุกคนที่กำลังจะล้ม’ (ข้อ 14ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘เครื่องหมายของพระราชกิจทั้งปวงของพระองค์คือความรัก’ (ข้อ 17ข พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

‘พระยาห์เวห์ทรงซื่อสัตย์ตามพระวจนะทั้งสิ้นของพระองค์’ (ข้อ 13ข) ในพระธรรมสดุดีนี้เต็มไปด้วยพระสัญญาอันงดงามของพระเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประคองคุณขึ้น (ข้อ 14) ‘พระยาห์เวห์สถิตใกล้ทุกคน’ (ข้อ 18) พระองค์ทรงเติมเต็มความปรารถนาของคุณ (ข้อ 19) พระเนตรของพระองค์นั้นดูแลอยู่เสมอ (ข้อ 20) สิ่งเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้เราสรรเสริญพระองค์ ‘ปากของข้าพเจ้าจะกล่าวสรรเสริญพระยาห์เวห์ และทุกชีวิตจะถวายสาธุการแด่พระนามบริสุทธิ์ของพระองค์เป็นนิตย์นิรันดร์’ (ข้อ 21)

คำอธิษฐาน

‘พระบิดา ขอให้ข้าพระองค์จับมือพระองค์ เหมือนเด็กน้อยที่เดินอยู่กับพระองค์ในทุกวัน ปลอดภัยอยู่ในความรักและความแข็งแกร่งของพระองค์’ (คำอธิษฐานของโธมัส เอ เคมพิส, 1380-1471)

พันธสัญญาใหม่

วิวรณ์ 13:1ข-18

สัตว์ร้ายสองตัว

1“และข้าพเจ้าเห็นสัตว์ร้ายตัวหนึ่งขึ้นมาจากทะเลมันมีสิบเขาและเจ็ดหัว และมีมงกุฎสิบอันอยู่บนเขาเหล่านั้นของมัน และมีชื่อต่างๆ ที่หมิ่นประมาทพระเจ้าจารึกไว้ที่หัวทั้งหลายของมัน 2สัตว์ร้ายที่ข้าพเจ้าเห็นนั้นเหมือนเสือดาว ตีนของมันเหมือนอย่างตีนหมี และปากของมันเหมือนอย่างปากสิงโต และพญานาคให้ฤทธิ์เดช บัลลังก์ และสิทธิอำนาจยิ่งใหญ่ของมันแก่สัตว์ร้ายนั้น 3หัวหนึ่งของมันเหมือนอย่างถูกฟันปางตาย แต่บาดแผลฉกรรจ์นั้นได้รับการรักษาให้หายแล้ว คนทั้งโลกติดตามสัตว์ร้ายนั้นไปด้วยความอัศจรรย์ใจ 4เขาทั้งหลายบูชาพญานาคเพราะมันให้สิทธิอำนาจแก่สัตว์ร้าย พวกเขาบูชาสัตว์ร้ายนั้น กล่าวว่า “ใครจะเหมือนสัตว์ร้ายนี้? และใครจะสามารถต่อสู้กับมันได้?”
 5พระเจ้าทรงอนุญาตให้สัตว์ร้ายนั้นใช้ปากพูดจาใหญ่โตและหมิ่นประมาทพระเจ้า และทรงอนุญาตให้มันใช้สิทธิอำนาจทำการสี่สิบสองเดือน 6มันเปิดปากของมันพูดหมิ่นประมาทพระเจ้า พูดหมิ่นประมาทต่อพระนามของพระองค์ ต่อสถานที่สถิตของพระองค์ และต่อพวกที่อยู่ในสวรรค์ 7และทรงอนุญาตให้มันทำสงครามกับบรรดาธรรมิกชนและชนะพวกเขา และประทานให้มันมีสิทธิอำนาจเหนือทุกเผ่า ทุกชนชาติ ทุกภาษา และทุกประชาชาติ และคนทั้งหลายที่อยู่บนแผ่นดินโลกจะบูชาสัตว์ร้ายนั้น คือคนที่ไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิตของพระเมษโปดกผู้ถูกปลงพระชนม์ตั้งแต่แรกสร้างโลก
9ใครมีหูก็ให้ฟังเอาเถิด
10คนใดที่กำหนดไว้ให้เป็นเชลย
คนนั้นก็จะไปเป็นเชลย
คนใดที่กำหนดไว้ให้ถูกฆ่าด้วยดาบ
คนนั้นก็ต้องถูกฆ่าด้วยดาบ
นี่แหละคือความทรหดอดทนและความเชื่อที่ธรรมิกชนทั้งหลายจะต้องมี
 11แล้วข้าพเจ้าเห็นสัตว์ร้ายอีกตัวหนึ่งขึ้นมาจากแผ่นดิน มันมีสองเขาเหมือนลูกแกะ และพูดเหมือนอย่างพญานาค 12มันใช้สิทธิอำนาจทั้งหมดของสัตว์ร้ายตัวแรกต่อหน้าสัตว์ร้ายนั้น มันทำให้โลกและคนที่อยู่ในโลกบูชาสัตว์ร้ายตัวที่มีบาดแผลฉกรรจ์ซึ่งได้รับการรักษาแล้ว” 13มันทำหมายสำคัญที่ยิ่งใหญ่ถึงขั้นทำให้ไฟตกจากฟ้าลงมายังแผ่นดินโลกต่อหน้าคนทั้งหลาย 14มันล่อลวงคนทั้งหลายที่อยู่บนแผ่นดินโลกด้วยหมายสำคัญต่างๆ ที่ทรงอนุญาตให้มันทำต่อหน้าสัตว์ร้ายตัวแรกนั้น และมันสั่งให้คนทั้งหลายที่อยู่บนแผ่นดินโลก สร้างรูปจำลองรูปหนึ่งให้กับสัตว์ร้ายตัวที่มีบาดแผลจากดาบแต่ยังมีชีวิตอยู่นั้น 15และทรงอนุญาตให้มันสามารถให้ลมหายใจแก่รูปของสัตว์ร้าย เพื่อให้รูปสัตว์ร้ายนั้นพูดได้ และทำให้พวกที่ไม่ยอมบูชารูปสัตว์ร้ายนั้นถึงแก่ความตาย 16และมันยังบังคับทุกคน ทั้งคนเล็กน้อยและคนใหญ่โต คนมั่งมีและคนยากจน เสรีชนและทาสให้รับเครื่องหมายไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผากของพวกเขา 17เพื่อไม่ให้ใครสามารถซื้อหรือขายได้ ถ้าหากไม่มีเครื่องหมายที่เป็นชื่อของสัตว์ร้าย หรือเป็นตัวเลขของชื่อมัน 18ในเรื่องนี้ต้องใช้สติปัญญาให้ดี ถ้าใครมีความเข้าใจ ก็จงคิดคำนวณเลขของสัตว์ร้ายตัวนั้น เพราะว่าเป็นเลขของคนผู้หนึ่ง เลขของมันคือหกร้อยหกสิบหก

อรรถาธิบาย

พระหัตถ์ของพระเจ้าจดชื่อของคุณไว้ในหนังสือแห่งชีวิต

ช่างเป็นสิทธิพิเศษอันน่าทึ่งที่พระหัตถ์ของพระเจ้าจดชื่อของคุณลงในหนังสือแห่งชีวิตของพระเยซู (ข้อ 8ข) เมื่อการถูกข่มเหงอยู่ตรงหน้า ‘ประชากรบริสุทธิ์ของพระเจ้าต่างได้ยืนหยัดด้วยความรักอย่างทรหดอดทน’ (ข้อ 10ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

‘สัตว์ร้าย’ ตัวแรก (ข้อ 1ข) ปรากฏเป็นอำนาจแห่งการข่มเหง บทนี้ได้พรรณาถึงรัฐบาลมนุษย์ในจุดต่ำที่สุด คืออำนาจแห่งปีศาจ ซึ่งควรจะอ่านควบคู่ไปกับพระธรรมโรมบทที่ 13 ซึ่งรัฐบาลมนุษย์ที่ดูเหมือนอยู่ในจุดที่ดีที่สุด ตามสิทธิอำนาจแห่งพระเจ้า รัฐบาลมนุษย์ทั้งหมดเป็นการผสมผสานระหว่างพระธรรมวิวรณ์บทที่ 13 และโรมบทที่ 13 บางรัฐบาลก็ดูเหมือนจะมีโรมบทที่ 13 อยู่มาก บางรัฐบาลก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่ถูกพรรณาถึงข้างต้น จึงไม่ต้องประหลาดใจเลยว่า ทำไมหลายรัฐบาลจึงออกกฏหมายซึ่งต่อต้านพระบัญญัติของคริสเตียน และอาจถึงขั้นข่มเหงคริสตจักร

บางที ‘เจ็ดหัว’ (วิวรณ์ 13:1ข) เปรียบเสมือนเนินเขาเจ็ดยอดที่กรุงโรมถูกตั้งขึ้น (ดู 17:9) ผู้เผยพระวจนะดาเนียลเห็นสัตว์ร้ายที่ดูเหมือนเสือดาว หมี และสิงโต เปรียบเสมือนอำนาจแห่งโลกทั้ง 3 ที่ตามมา (ดาเนียล 7:3) ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว (วิวรณ์ 13:2)

‘บาดแผลฉกรรจ์’ นั้น ‘ได้รับการรักษาให้หายแล้ว’ (ข้อ 3) อาจหมายถึงกษัตริย์เนโร (เป็นที่รู้จักว่าเป็นผู้ที่ข่มเหงคริสเตียนคนสำคัญ) ผู้ที่พยายามฆ่าตัวตายก่อนคริสตกาล 68 ปี และเชื่อกันว่าจะสามารถกลับฟื้นคืนมามีชีวิตได้อีกครั้ง (ตามตำนานเล่าขาน) นี่อาจมองได้ว่าเป็นการเลียนแบบของการตายและการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู

สัตว์ร้ายจู่โจมเข้าทำร้ายประชากรของพระเจ้าเป็นเวลา 42 เดือนหรือสามปีครึ่ง (นี่คือช่วงเวลาที่เปรียบเสมือนเวลาแห่งการกลับมาครั้งแรกและครั้งที่สองของพระเยซู ซึ่งก็คืออายุของคริสตจักร) สัตว์ร้ายกดขี่ข่มเหงคริสตจักร เขา ‘ทำสงครามกับบรรดาธรรมิกชน’ (ข้อ 7) เขามีผู้ติดตามจำนวนมาก

มีเพียงคนจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ติดตามเขา นั่นคือ ผู้ที่ชื่อของพวกเขาถูกจดลงไว้ในหนังสือแห่งชีวิตว่าพวกเขานั้นเป็นของพระเมษโปดก ผู้ซึ่งถูกปลงพระชนม์ตั้งแต่แรกสร้างโลก (ข้อ 8ข)

สัตว์ร้ายตัวที่สองคือภาพของพระคริสต์จอมปลอม มันกระทำ ‘หมายสำคัญที่ยิ่งใหญ่’ (ข้อ 13) เป็นผู้ล่อลวง เขาบังคับให้ทุกคนต้องมีตราสัญลักษณ์ของเขาบนมือข้างขวา หรือบนหน้าผากของพวกเขา (ข้อ 16) หมายเลขนั้น คือ 666 (ข้อ 18)

หมายเลข 666 ในระดับหนึ่งอาจเปรียบได้กับกษัตริย์เนโร ตั้งแต่จดหมายฮีบรูสำหรับ ‘เนโรซีซาร์’ เมื่อแปลงมาเป็นตัวเลขได้ทั้งหมด 666 หรือในอีกระดับหนึ่ง ตัวเลขในพระธรรมวิวรณ์นั้นมักจะเป็นสัญลักษณ์ เลข 6 คือตัวเลขแห่งความไม่สมบูรณ์ (เพราะว่าเลข 7 เป็นตัวเลขแห่งความสมบูรณ์) ดังนั้น 666 คือจำนวนสามเท่าของความไม่สมบูรณ์ หรือพูดได้ว่า เต็มไปด้วยความบาปทั้งสิ้น

‘ในเรื่องนี้ต้องใช้สติปัญญาให้ดี’ (ข้อ 18ก) ซาตานแสดงว่าตนเป็นทูตสวรรค์แห่งแสงสว่างและผู้รับใช้ของมันก็แสดงตนเป็นผู้รับใช้แห่งความชอบธรรม (ดู 2 โครินธ์ 11:13-14) สัตว์ร้ายตัวแรก ‘ปากของมันเหมือนอย่างปากสิงโต’ (วิวรณ์ 13:2) สัตว์ร้ายตัวที่สองมีสองเขา ‘เหมือนลูกแกะ’ (ข้อ 11) สิ่งที่ปรากฏขึ้นราวกับว่าพวกมันพยายามที่จะปรากฏตัวให้เหมือนกับพระเยซู (ผู้ที่เป็นทั้งสิงโตและลูกแกะ ดู วิวรณ์ 5:5-6)

ต่อไป เราจะอ่านของสัตว์ร้ายตัวที่ 3 นั่นก็คือ บาบิโลน (ดูวิวรณ์ 14:8 และบทที่ 17-18) สัตว์ร้ายทั้งสามตัวเมื่อรวมอยู่ด้วยกันดูเสมือนว่าพวกมันกำลังหลอกลวงว่าพวกมันคือ ตรีเอกานุภาพ ดูยิ่งใหญ่และล่อลวงคนจำนวนมาก เราต้องการสติปัญญาที่จะพิจารณาแยกแยะสิ่งที่ดีออกจากสิ่งที่ชั่ว

ขอบคุณพระเจ้าที่โดยพระหัตถ์ของพระองค์นั้น ชื่อของคุณถูกจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิตแห่งพระเมษโปดก

คำอธิษฐาน

องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดประทานสติปัญญา ความสัตย์ซื่อ ความมุมานะอดทนอดกลั้นให้แก่ข้าพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้เอาชนะความชั่วด้วยความดี

พันธสัญญาเดิม

เอสรา 7:11-8:14

จดหมายจากกษัตริย์อารทาเซอร์ซีสถึงเอสรา

 11ต่อไปนี้เป็นสำเนาจดหมาย ซึ่งกษัตริย์อารทาเซอร์ซีสประทานแก่เอสราปุโรหิต ผู้เป็นธรรมาจารย์ ผู้เรียนรู้ในเรื่องราวของพระบัญญัติของพระยาห์เวห์และกฎเกณฑ์ของพระองค์เพื่ออิสราเอลว่า 12“อารทาเซอร์ซีสกษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย ถึงเอสราปุโรหิต ธรรมาจารย์ของธรรมบัญญัติแห่งพระเจ้าของฟ้าสวรรค์ 13บัดนี้ เราออกกฤษฎีกาว่า ประชาชนอิสราเอลคนหนึ่งคนใดหรือปุโรหิตของพวกเขา หรือคนเลวีในราชอาณาจักรของเรา ผู้ซึ่งสมัครใจไปยังเยรูซาเล็มก็ให้ไปกับเจ้าได้ 14เพราะกษัตริย์และที่ปรึกษาทั้งเจ็ดคนได้ใช้เจ้าไป ให้ถามถึงยูดาห์และเยรูซาเล็ม ตามพระธรรมของพระเจ้าของเจ้าซึ่งอยู่ในมือเจ้านั้น 15และให้นำเงินและทองคำซึ่งกษัตริย์และที่ปรึกษาของพระองค์สมัครใจถวายแด่พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ประทับในเยรูซาเล็ม 16พร้อมทั้งเงินและทองคำทั้งสิ้นซึ่งเจ้าจะหาได้ทั่วไปในมณฑลของบาบิโลนพร้อมกับของถวายด้วยใจสมัครของประชาชนและปุโรหิตที่สมัครใจถวายแด่พระนิเวศของพระเจ้าของเขา ซึ่งอยู่ในเยรูซาเล็ม 17แล้วด้วยเงินนี้เจ้าจงขยันขันแข็งซื้อวัวผู้ แกะผู้ และลูกแกะ กับธัญบูชาคู่กันและเครื่องดื่มบูชาคู่กัน และเจ้าจงถวายสิ่งเหล่านี้บนแท่นบูชาของพระนิเวศแห่งพระเจ้าของเจ้าซึ่งอยู่ในเยรูซาเล็ม 18ส่วนเงินและทองคำที่เหลืออยู่นั้นเจ้าและพี่น้องของเจ้าเห็นดีที่จะทำอย่างไรก็จงทำเถิด ตามพระประสงค์ของพระเจ้าของเจ้า 19และเครื่องใช้ซึ่งได้มอบให้เจ้าสำหรับการปรนนิบัติในพระนิเวศของพระเจ้าของเจ้า เจ้าจงมอบถวายไว้ต่อพระพักตร์พระเจ้าแห่งเยรูซาเล็ม 20และสิ่งใดๆ ซึ่งยังต้องการสำหรับพระนิเวศของพระเจ้าของเจ้า ซึ่งเจ้าจะต้องจัดหานั้น เจ้าจงจัดหาให้จากพระคลังของกษัตริย์
 21“และเรา คือ กษัตริย์อารทาเซอร์ซีส ได้ออกกฤษฎีกาไปยังนายคลังในมณฑลฟากแม่น้ำข้างตะวันตกว่า สิ่งใดๆ ที่เอสราปุโรหิตธรรมาจารย์ของธรรมบัญญัติแห่งพระเจ้าของฟ้าสวรรค์ต้องการจากท่าน จงดำเนินการให้เขาด้วยความขยันขันแข็ง 22ถึงเงินหนัก 3,400 กิโลกรัม และข้าวสาลีถึง 10,000 กิโลกรัม เหล้าองุ่น 2,000 ลิตร น้ำมัน 2,000 ลิตร และเกลือไม่จำกัดจำนวน 23สิ่งใดที่พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ทรงบัญชา ก็จงทำให้อย่างเต็มขนาดสำหรับพระนิเวศของพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ เกรงว่าพระพิโรธของพระองค์จะมีต่อดินแดนของกษัตริย์ และบรรดาโอรสของพระองค์ 24เราขอแจ้งแก่ท่านทั้งหลายด้วยว่า ไม่เป็นการถูกต้องตามกฎหมายที่จะเอาบรรณาการ ค่าธรรมเนียม หรือภาษีจากคนหนึ่งคนใดในบรรดาปุโรหิต คนเลวี นักร้อง คนเฝ้าประตู บ่าวไพร่ประจำพระวิหาร หรือผู้รับใช้อื่นๆ ของพระนิเวศของพระเจ้านี้
 25“ส่วนเจ้า เอสรา ตามพระสติปัญญาแห่งพระเจ้าของเจ้าที่เจ้ามีอยู่ จงแต่งตั้งพนักงานผู้ปกครอง และผู้พิพากษาที่จะพิพากษาประชาชนทั้งปวงในมณฑลฟากแม่น้ำข้างตะวันตก คือทุกคนที่รู้บรรดาธรรมบัญญัติของพระเจ้าของเจ้า และคนเหล่านั้นที่ไม่รู้ เจ้าทั้งหลายจะต้องสอน 26ใครที่ไม่เชื่อฟังธรรมบัญญัติของพระเจ้าของเจ้า และกฎหมายของกษัตริย์ก็ให้พิพากษาลงโทษเขาอย่างเคร่งครัด จะเป็นโทษถึงตาย หรือถึงเนรเทศ หรือถึงริบทรัพย์ของเขา หรือถึงจำขังก็ได้”
 27สาธุการแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเรา ผู้ดลพระทัยของกษัตริย์ให้เสริมความงามแก่พระนิเวศของพระยาห์เวห์ซึ่งอยู่ในเยรูซาเล็ม 28และโดยความรักมั่นคงของพระองค์ทรงบันดาลให้ข้าพเจ้ามีความชอบต่อพระพักตร์กษัตริย์ และที่ปรึกษาของพระองค์ และต่อหน้าพวกเจ้านายผู้ทรงอำนาจของกษัตริย์ และข้าพเจ้าก็มีใจกล้าขึ้น เพราะพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าอยู่กับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้รวบรวมบุคคลชั้นผู้นำจากอิสราเอลขึ้นไปกับข้าพเจ้า

เอสรา 8

หัวหน้าตระกูลที่กลับมาพร้อมกับเอสรา

 1ต่อไปนี้เป็นหัวหน้าตระกูลของเขาทั้งหลาย และนี่เป็นสำมะโนครัวเชื้อสายของคนเหล่านั้นที่ขึ้นไปกับข้าพเจ้าจากบาบิโลน ในรัชกาลกษัตริย์อารทาเซอร์ซีส คือ 2จากพงศ์พันธุ์ฟีเนหัสมี เกอร์โชม จากพงศ์พันธุ์อิธามาร์ มี ดาเนียล จากพงศ์พันธุ์ดาวิด มี ฮัทธัช 3จากพงศ์พันธุ์เชคานิยาห์ จากพงศ์พันธุ์ปาโรช มี เศคาริยาห์ พร้อมกับท่าน มีผู้ชายที่ขึ้นทะเบียนไว้ 150 คน 4จากพงศ์พันธุ์ปาหัทโมอับมี เอลีโฮเอนัย บุตรเศ-ราหิยาห์ พร้อมกับท่าน มีผู้ชาย 200 คน 5จากพงศ์พันธุ์ศัทธู มี เชคานิยาห์ บุตรยาฮาซีเอล พร้อมกับท่าน มีผู้ชาย 300 คน 6จากพงศ์พันธุ์อาดีน มี เอเบด บุตรโยนาธาน พร้อมกับท่าน มีผู้ชาย 50 คน 7จากพงศ์พันธุ์เอลาม มี เยชายาห์ บุตรอาธาลิยาห์ พร้อมกับท่าน มีผู้ชาย 70 คน 8จากพงศ์พันธุ์เชฟาทิยาห์ มี เศบาดิยาห์ บุตรมีคาเอล พร้อมกับท่าน มีผู้ชาย 80 คน 9จากพงศ์พันธุ์โยอาบ มี โอบาดีห์บุตรเยฮีเอล พร้อมกับท่าน มีผู้ชาย 218 คน 10จากพงศ์พันธุ์บานี มี เชโลมิทบุตรโยสิฟียาห์ พร้อมกับท่าน มีผู้ชาย 160 คน 11จากพงศ์พันธุ์เบบัย มี เศคาริยาห์บุตรเบบัย พร้อมกับท่าน มีผู้ชาย 28 คน 12จากพงศ์พันธุ์อัสกาด มี โยฮานัน บุตรฮักคาทาน พร้อมกับท่าน มีผู้ชาย 110 คน 13จากพงศ์พันธุ์อาโดนีคัม มีผู้มาทีหลัง นี่เป็นชื่อของเขาคือ เอลีเฟเลท เยอูเอล และเชไมยาห์ พร้อมกับพวกเขา มีผู้ชาย 60 คน 14จากพงศ์พันธุ์บิกวัย มี อุธัย และ ศัคเคอร์ พร้อมกับเขาทั้งสอง มีผู้ชาย 70 คน

อรรถาธิบาย

พระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่กับผู้ที่แสวงหาพระองค์

พระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่กับเอสรา พระธรรมเอสรานั้นเกี่ยวกับการที่กลุ่มคนในสังคมได้ร่วมกันทำสิ่งใหม่ ไม่ใช่เรื่องของคนเพียงหนึ่งคน อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงใช้เอสราในทางที่พิเศษ

เอสรารู้ว่า พระหัตถ์ของพระยาห์เวห์อยู่กับเขาและข้าพเจ้าก็มีใจกล้าขึ้น เพราะพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าอยู่กับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้รวบรวมบุคคลชั้นผู้นำจากอิสราเอลขึ้นไปกับข้าพเจ้า ’ (7:28) เอสรานำคนเพิ่มไปอีก 1,500 คน รวมทั้งสิ้นประมาณ 5,000 คนที่อยู่กับเขา (8:1-14)

พระธรรมของวันพรุ่งนี้ เราจะได้อ่านถึง ‘พระหัตถ์อันทรงพระคุณของพระเจ้าของเราอยู่กับเรา’ (ข้อ 18) ‘พระหัตถ์ของพระเจ้าของเราอยู่กับบรรดาผู้ที่แสวงพระองค์’ (ข้อ 22) ‘พระหัตถ์ของพระเจ้าของเราอยู่กับเรา และพระองค์ทรงช่วยกู้เราให้พ้นจากมือของศัตรูและจากพวกซุ่มคอยอยู่ตามทาง’ (ข้อ 31) เมื่อคุณมองที่พระเจ้า คุณสามารถแน่ใจได้ว่า พระหัตถ์ของพระเจ้านั้นอยู่กับคุณด้วยเช่นกัน

เอสราเป็นปุโรหิตและธรรมาจารย์ผู้ศึกษาพระวจนะคำอย่างใกล้ชิด ‘ปุโรหิต ผู้เป็นธรรมาจารย์ ผู้เรียนรู้ในเรื่องราวของพระบัญญัติของพระเจ้าและกฏเกณฑ์ของพระองค์’ (7:11 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

พระเจ้าทำงานผ่านผู้นำฝ่ายโลก (อารทาเซอร์ซีส) เพื่อให้เกิดตามพระประสงค์อันดีของพระองค์ พวกเราถูกย้ำเตือนอีกครั้งว่า ‘พระทัยพระราชาเหมือนธารน้ำในพระหัตถ์พระยาห์เวห์ พระเจ้าจะทรงชักนำไปทางไหนก็ตามแต่จะโปรด’ (สุภาษิต 21:1) อารทาเซอร์ซีสเขียนจดหมายเกี่ยวกับการจัดสรรต่าง ๆ ให้กับเอสรา (เอสรา 7:12 เป็นต้นไป)

จุดนี้เราได้เห็นตัวอย่างของรัฐบาลฝ่ายโลกที่มีความเหมือนกับในโรมบทที่ 13 มากกว่าวิวรณ์ 13 กษัตริย์อารทาเซอร์ซีสเขียนว่า ‘กษัตริย์และที่ปรึกษาทั้งเจ็ดคนได้ใช้เจ้าไป...ให้ถามถึงยูดาห์และเยรูซาเล็ม ตามพระธรรมของพระเจ้าของเจ้าซึ่งอยู่ในมือเจ้านั้น’ (เอสรา 7:14) ทรงกล่าวต่อไปว่า ‘ส่วนเจ้า เอสรา ตามพระสติปัญญาแห่งพระเจ้าของเจ้าที่เจ้ามีอยู่ในมือของเจ้า จงแต่งตั้งพนักงานผู้ปกครองและผู้พิพากษาที่จะพิพากษา...คนที่ไม่รู้ เจ้าจะต้องสอน’ (ข้อ 25 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เอสรากล่าวว่า ‘สาธุการแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเรา ผู้ดลพระทัยของกษัตริย์ให้เสริมความงามแก่พระนิเวศของพระยาห์เวห์ซึ่งอยู่ในเยรูซาเล็ม และโดยความรักมั่นคงของพระองค์ทรงบันดาลให้ข้าพเจ้ามีความชอบต่อพระพักตร์กษัตริย์ และที่ปรึกษาของพระองค์ และต่อหน้าพวกเจ้านายผู้ทรงอำนาจของกษัตริย์’ (ข้อ 27-28)

เมื่อพระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่กับคุณ คุณเป็นดั่งตะเกียงส่องสว่างบนเนินเขา (มัทธิว 5:15) แสงสว่างของพระองค์ส่องออกมาจากคุณ และจะดึงดูดผู้คนเข้ามาหาพระองค์ พระองค์จะทรงใช้คุณให้เป็นผู้นำ และจะทรงสร้างคุณด้วยความกล้าหาญและสิทธิอำนาจที่คุณจำเป็นต้องมี

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่พระหัตถ์อันเมตตาของพระองค์นั้นอยู่กับทุกคนที่มองไปยังพระองค์ ขอบคุณสำหรับความรัก ความกรุณา และการปกป้องคุ้มครอง เพราะว่าพระหัตถ์อันเมตตาของพระองค์อยู่กับข้าพระองค์ ข้าพระองค์มองไปที่พระองค์ และมีใจกล้าขึ้น

เพิ่มเติมโดยพิพพา

ฉันค่อนข้างที่จะปล้ำสู้กับพระธรรมวิวรณ์ ฉันพยายามที่จะมองหา การปลอบประโลม จากพระคัมภีร์วันนี้ ฉันจึงเข้ามาอ่านในพระธรรมสดุดี (ฉันไม่ค่อยแน่ใจว่าฉันพร้อมแค่ไหนกับการถูกข่มเหง)

‘พระยาห์เวห์ทรง...พระเมตตาตามกิจการทั้งสิ้นของพระองค์’ (สดุดี 145:13ข) พระยาห์เวห์ ‘ประคอง’ ‘พยุง’ ‘อิ่มตามความปรารถนา’ ‘สถิตใกล้’ ‘เฝ้ารักษา’ (ข้อ 14-20)

ตอนนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้ว

reader

App

Download The Bible with Nicky and Pippa Gumbel app for iOS or Android devices and read along each day.

reader

อีเมล

Sign up now to receive The Bible with Nicky and Pippa Gumbel in your inbox each morning. You’ll get one email each day.

reader

เว็บไซต์

Subscribe and listen to The Bible with Nicky and Pippa Gumbel delivered to your favourite podcast app everyday.

การอ้างอิง

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

เว็บไซต์นี้จัดเก็บข้อมูล เช่น คุกกี้ เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นและการวิเคราะห์ที่จำเป็นเท่านั้น ดูเพิ่มเติม