วัน 365

เจ้าสาว

ปัญญานิพนธ์ สุภาษิต 31:21-31
พันธสัญญาใหม่ วิวรณ์ 21:1-27
พันธสัญญาเดิม เนหะมีย์ 11:22-12:47

เกริ่นนำ

ผมมักรู้สึกตื้นตันใจในงานแต่งงานเสมอ ครั้งหนึ่งผมได้มีโอกาสเป็นผู้ประกอบพิธีแต่งงานให้กับลูกสาวบุญธรรม ในฐานะศิษยาภิบาล น้ำตาผมไหลริน พ่อของเจ้าสาวซึ่งเป็นเพื่อนรักของผม กล่าวในสุนทรพจน์ว่า หลังจากที่คุณเดินส่งตัวลูกสาวของคุณไปตามทางเดิน คุณคาดหวังว่าศิษยาภิบาลจะเป็นดั่ง 'ศิลา' แต่กลับพบว่าผมเป็นเพียง 'ซากปรักหักพัง'!

เมื่อถึงงานแต่งงานของลูกสาวของผมเอง ผมมุ่งมั่นให้ทุกอย่างราบรื่น และทำได้ดีจนกระทั่งครึ่งชั่วโมงก่อนพิธีแต่งงานจะเริ่มขึ้น! เมื่อผมเดินลงบันไดมาพบกับลูกสาวของผมในชุดแต่งงาน ณ จุดนั้น ผมก็น้ำตาไหลเลย

'เจ้าสาว' เป็นคำอุปมาอันทรงพลังและงดงามที่ใช้ในการบรรยายถึงคริสตจักรในพันธสัญญาใหม่ (เอเฟซัส 5:22-32) ซึ่งถูกนำมาใช้ในตอนของพันธสัญญาใหม่ในวันนี้ สื่อถึงคริสตจักรในอนาคตที่ลอยลงมาจากสวรรค์ของพระเจ้าว่า 'เหมือนอย่างเจ้าสาวที่แต่งตัวไว้สำหรับสามี' (วิวรณ์ 21:2) ภาพเจ้าสาวนี้ คือ กรุงเยรูซาเล็มใหม่ ซึ่งถูกบ่งชี้ไว้ล่วงหน้าในหลายรูปแบบ ทั้งในพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่

ปัญญานิพนธ์

สุภาษิต 31:21-31

21เธอไม่กลัวหิมะมาทำให้ครอบครัวของเธอหนาว
 เพราะทุกคนในครอบครัวสวมเสื้อสองชั้น
22เธอทำผ้าปูเตียงสำหรับเธอ
 เสื้อผ้าของเธอทำด้วยผ้าลินินเนื้อละเอียดและผ้าสีม่วง
23สามีของเธอเป็นที่รู้จักที่ประตูเมือง
 เมื่อเขานั่งอยู่ในหมู่พวกผู้ใหญ่ของแผ่นดิน
24เธอทำเครื่องนุ่งห่มด้วยผ้าลินินไว้ขาย
 เธอส่งผ้าคาดเอวให้แก่พ่อค้า
25กำลังและความสง่าผ่าเผยเป็นอาภรณ์ของเธอ
 เธอหัวเราะให้แก่เหตุการณ์ที่จะมาถึง
26เธออ้าปากกล่าวด้วยปัญญา
 และคำสอนเจือความเอ็นดูอยู่ที่ลิ้นของเธอ
27เธอดูแลความเป็นอยู่ในครอบครัวอย่างดี
 และไม่เคยเกียจคร้าน
28ลูกๆ ของเธอตื่นขึ้นมาก็ชมเชยเธอ
 สามีของเธอก็สรรเสริญเธอว่า
29“สตรีมากมายทำได้ดีเลิศ แต่เธอเลิศยิ่งกว่าเขาทั้งหมด”
30เสน่ห์เป็นของหลอกลวง และความงามก็ไม่จีรัง
 แต่สตรีที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ สมควรได้รับคำสรรเสริญ
31จงให้เธอรับผลแห่งน้ำมือของเธอ
 และให้การงานของเธอสรรเสริญเธอที่ประตูเมือง

อรรถาธิบาย

เจ้าสาวผู้เป็นความภาคภูมิใจ

เมื่อคุณอ่านคุณลักษณะของ 'ภรรยาที่ดีเลิศ' (พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) จะตระหนักได้ว่าสิ่งนี้ไม่ได้ใช้เฉพาะกับภรรยาหรือผู้หญิงเท่านั้น เพราะเราทุกคนคือเจ้าสาวของพระคริสต์ คำนี้จึงประยุกต์ใช้ได้กับทุกคน ทั้งชายและหญิง ทั้งแต่งงานแล้วและยังไม่แต่งงาน คริสตจักรควรเป็นเช่นนี้ และโดยทางพระเยซู เราจะเป็นได้ในสักวันหนึ่ง

คำจำกัดความของ 'คุณลักษณะที่ดีของผู้ที่เป็นภรรยา' มีต้นแบบมาจากเจ้าสาวที่เป็นมนุษย์ เธอทำให้ครอบครัวของเธออบอุ่น (ข้อ 21) เธอแต่งกายอย่างดี (ข้อ 22ข) สามีของเธอได้รับความเคารพเพราะเธอ (ข้อ 23ก) ธุรกิจของเธอเจริญเติบโต (ข้อ 24) กำลังและความสง่าผ่าเผยคืออาภรณ์ของเธอ (ข้อ 25ก) เธอสามารถเผชิญกับอนาคตด้วยความมั่นใจและความชื่นบาน (ข้อ 25ข)

ถ้อยคำของเธอเต็มไปด้วยปัญญา (ข้อ 26) 'เมื่อเธอพูด เธอรู้ว่าเธอควรจะพูดอะไรและพูดด้วยความเมตตาเสมอ' (ข้อ 26, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ช่างเป็นแบบอย่างที่ยิ่งใหญ่! หลีกเลี่ยงคำพูดที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ และความคลางแคลงใจ พูดด้วยถ้อยคำแห่งความเมตตาเท่านั้น

เธอดูแลความเป็นอยู่ในครัวเรือนของเธอ และ 'ไม่กินขนมปังแห่งความเกียจคร้าน (การนินทา การไม่พึงพอใจในสิ่งที่มี และการสงสารตัวเอง)' (ข้อ 27, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

ลูกๆ ของเธอ ‘ตื่นขึ้นมาก็ชมเชยเธอ’ (ข้อ 28ก) อับราฮัม ลินคอล์น กล่าวว่า 'ไม่มีมนุษย์คนใดที่จะยากจนหากเขามีแม่ผู้ประเสริฐ' เธอไม่เพียงแค่ได้รับความซาบซึ้งใจจากลูก ๆ ของเธอเท่านั้น สามีเธอก็สรรเสริญเธอ กล่าวว่า 'สตรีมากมายทำได้ดีเลิศ แต่เธอเลิศยิ่งกว่าเขาทั้งหมด' (ข้อ 28ข -29)

ข้อสุดท้ายที่เจาะจงสำหรับผู้หญิงทุกคน 'เสน่ห์นั้นไม่เที่ยงแท้และความงามนั้นจืดจางไปในเร็ววัน สตรีผู้คู่ควรแก่การสรรเสริญคือบรรดาผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างยำเกรงพระเจ้า ให้ทุกอย่างที่เธอคู่ควรแด่เธอ! ให้ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยคำสรรเสริญ!' (ข้อ 30-31, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดา ขอบคุณสำหรับภาพของสิ่งที่คริสตจักรควรเป็น -เจ้าสาวของพระคริสต์ โปรดช่วยเราให้เป็นคริสตจักรในแบบที่พระเยซูทรงภาคภูมิใจ

พันธสัญญาใหม่

วิวรณ์ 21:1-27

ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่

 1และข้าพเจ้าเห็นฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ เพราะว่าฟ้าสวรรค์เดิมและแผ่นดินโลกเดิมนั้นหายไปแล้ว และทะเลก็ไม่มีอีกต่อไป 2และข้าพเจ้าได้เห็นนครบริสุทธิ์ คือนครเยรูซาเล็มใหม่ลอยลงมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า นครนี้เตรียมพร้อมเหมือนอย่างเจ้าสาวที่แต่งตัวไว้สำหรับสามี 3ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากพระที่นั่งว่า “นี่แน่ะ ที่ประทับของพระเจ้าอยู่กับมนุษย์แล้ว และพระองค์จะประทับกับเขาทั้งหลาย พวกเขาจะเป็นชนชาติของพระองค์ พระเจ้าเองจะสถิตกับเขา [และจะทรงเป็นพระเจ้าของเขา] 4พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกๆ หยดจากตาของเขาทั้งหลาย และความตายจะไม่มีอีกต่อไป ความโศกเศร้า การร้องไห้ และการเจ็บปวดจะไม่มีอีกต่อไป เพราะยุคเดิมนั้นผ่านไปแล้ว”
 5แล้วพระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งตรัสว่า “นี่แน่ะ เราสร้างทุกสิ่งขึ้นใหม่” และตรัสอีกว่า “จงเขียนลงไปเถิด เพราะว่าคำเหล่านี้เป็นคำที่เชื่อถือได้และสัตย์จริง” 6แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “สำเร็จแล้ว เราเป็นอัลฟาและโอเมกา เป็นปฐมและอวสาน ใครที่กระหาย เราจะให้เขาดื่มจากบ่อน้ำพุแห่งชีวิตโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย 7คนที่ชนะจะได้รับสิ่งเหล่านี้เป็นมรดก และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา 8แต่พวกที่ขี้ขลาด พวกที่ไม่เชื่อ พวกที่ประพฤติอย่างน่าสะอิดสะเอียน พวกฆาตกร พวกล่วงประเวณี พวกใช้เวทมนตร์ พวกบูชารูปเคารพ และทุกคนที่โกหกนั้น มรดกของพวกเขาอยู่ในบึงที่ไฟและกำมะถันกำลังลุกไหม้อยู่ ซึ่งเป็นความตายครั้งที่สอง”

นครเยรูซาเล็มใหม่

 9แล้วทูตสวรรค์องค์หนึ่งในเจ็ดองค์ที่ถือชามเจ็ดใบเต็มด้วยภัยพิบัติสุดท้ายเจ็ดอย่างนั้น มาและพูดกับข้าพเจ้าว่า “มานี่ซี เราจะให้ท่านดูเจ้าสาวที่เป็นมเหสีของพระเมษโปดก” 10แล้วท่านนำข้าพเจ้าโดยพระวิญญาณขึ้นไปบนภูเขาสูงใหญ่ และสำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นนครบริสุทธิ์คือเยรูซาเล็ม ซึ่งลอยลงมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า 11นครนั้นเต็มไปด้วยพระสิริของพระเจ้า ใสสว่างเหมือนอย่างอัญมณี เหมือนอย่างแจสเพอร์ที่ใสดังแก้วผลึก 12นครนั้นมีกำแพงสูงใหญ่ มีประตูสิบสองประตู และที่ประตูมีทูตสวรรค์สิบสององค์ บนประตูมีชื่อเผ่าของอิสราเอลสิบสองเผ่าจารึกไว้ 13ทางด้านตะวันออกมีสามประตู ทางด้านเหนือมีสามประตู ทางด้านใต้มีสามประตูและทางด้านตะวันตกมีสามประตู 14กำแพงของนครนั้นมีฐานศิลาสิบสองฐาน และบนฐานเหล่านั้นมีชื่ออัครทูตสิบสองคนของพระเมษโปดก
 15ทูตสวรรค์องค์ที่พูดกับข้าพเจ้านั้นมีไม้วัดที่ทำด้วยทองคำเพื่อจะวัดตัวนคร ประตูและกำแพงของนครนั้น 16นครนั้นเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวเท่ากัน และท่านวัดนครนั้นด้วยไม้วัดได้ 12,000 สทาดิโอน ความยาว ความกว้างและความสูงเท่ากัน 17ท่านวัดกำแพงนครนั้นได้ 144 ศอก ตามมาตราวัดของมนุษย์ที่ทูตสวรรค์ก็ใช้ 18กำแพงนครนั้นสร้างขึ้นด้วยแจสเพอร์ และนครนั้นสร้างด้วยทองคำเนื้อบริสุทธิ์เหมือนแก้วที่ใสสะอาด 19ฐานศิลาต่างๆ ของกำแพงนครนั้นประดับด้วยอัญมณีทุกชนิด ฐานที่หนึ่งเป็นแจสเพอร์ ที่สองไพลิน ที่สามเป็นโมรา ที่สี่เป็นมรกต 20ที่ห้าโอนิกซ์ ที่หกคาร์เนเลียน ที่เจ็ดเพอริโด ที่แปดเบริล ที่เก้าโทแพซ ที่สิบคริโซเพรส ที่สิบเอ็ดเพทาย ที่สิบสองแอเมทิสต์ 21ประตูทั้งสิบสองประตูนั้นทำด้วยไข่มุกสิบสองเม็ด ประตูละเม็ด และถนนในนครนั้นเป็นทองคำเนื้อบริสุทธิ์เหมือนอย่างแก้วโปร่งใส
 22ข้าพเจ้าไม่เห็นมีพระวิหารในนครนั้น เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าทรงฤทธานุภาพสูงสุด และพระเมษโปดกเป็นพระวิหารในนครนั้น 23นครนั้นไม่จำเป็นต้องมีแสงจากดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ เพราะว่าพระสิริของพระเจ้าเป็นแสงสว่างของนครนั้น และพระเมษโปดกทรงเป็นประทีปของนครนั้น 24ประชาชาติต่างๆ จะเดินโดยอาศัยแสงสว่างของนครนั้น และกษัตริย์ทั้งหลายในแผ่นดินโลกจะนำศักดิ์ศรีของตนเข้ามาในนครนั้น 25ประตูต่างๆ ของนครจะไม่ปิดในเวลากลางวัน และจะไม่มีเวลากลางคืนในนั้น 26คนทั้งหลายจะนำศักดิ์ศรีและเกียรติของประชาชาติต่างๆ เข้ามา 27และไม่มีสิ่งใดที่เป็นมลทิน หรือคนใดที่ประพฤติอย่างน่าสะอิดสะเอียน หรือประพฤติการหลอกลวงจะเข้าไปในนครนั้นได้ นอกจากพวกที่มีชื่อจดไว้ในหนังสือชีวิตของพระเมษโปดกเท่านั้น

อรรถาธิบาย

เจ้าสาวผู้เตรียมพร้อม

อนาคตข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่? 'สวรรค์' จะเป็นอย่างไร? ในพันธสัญญาใหม่ตอบเราว่า มันจะไม่เป็นเพียงแค่ 'สวรรค์' แต่จะเป็น 'ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่' (ข้อ 1ก) สวรรค์ใหม่และโลกใบใหม่นี้เป็นเรื่องจริงและดีเลิศ

พระธรรมตอนนี้มีความย้อนแย้งเกี่ยวกับการทรงสร้างใหม่ 'ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่' แต่พระคริสต์กล่าวว่า 'เราสร้างสิ่งสารพัดขึ้นใหม่' (ข้อ 5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก New King James Version ) ไม่ใช่ 'เราสร้างสิ่งใหม่ขึ้น' นี่เป็นเครื่องบ่งชี้ของความต่อเนื่องของการทรงสร้างครั้งนี้ และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไม มาร์ติน ลูเธอร์ จึงกล่าวไว้ว่า 'ถ้าผมรู้ว่าโลกจะสิ้นสุดลงพรุ่งนี้ ผมจะปลูกต้นไม้ในวันนี้' สิ่งนี้สามารถนำไปเสริมความเข้าใจของเราในเรื่องการฟื้นคืนพระชนม์ (และการที่เราปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อมในตอนนี้)

ในฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ ยอห์นเห็นพวกเราผู้เป็นคริสตจักรอย่างที่เราจะได้เป็น เขาเห็น 'นครบริสุทธิ์ คือนครเยรูซาเล็มใหม่ลอยลงมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า นครนี้เตรียมพร้อมเหมือนอย่างเจ้าสาวที่แต่งตัวไว้สำหรับสามี' (ข้อ 2) ทูตสวรรค์องค์หนึ่งกล่าวว่า 'มานี่ซี เราจะให้ท่านดูเจ้าสาวที่เป็นมเหสีของพระเมษโปดก' (ข้อ 9)

พระเยซูจะทรงสนองความกระหายของคุณที่มีต่อพระเจ้า 'พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “สำเร็จแล้ว เราเป็นอัลฟาและโอเมกา เป็นปฐมและอวสาน ใครที่กระหาย เราจะให้เขาดื่มจากบ่อน้ำพุแห่งชีวิตโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย”' (ข้อ 6)

การจะมีความสัมพันธ์ใหม่กับพระเจ้านั้น คุณได้มีประสบการณ์ล่วงหน้าแล้วในวันนี้ผ่านการทรงสถิตของพระเจ้าในคริสตจักรโดยทางพระวิญญาณ ในวันแห่งความยิ่งใหญ่นี้ คุณจะถูกนำไปในที่แห่งความสัมพันธ์อันล้ำลึกกับพระเยซู เป็นความสัมพันธ์ที่สวยงามที่สุด ทวีคูณเป็นล้านเท่า และคุณจะได้แนวคิดบางอย่างเกี่ยวกับความงดงามตระการแห่งสัมพันธภาพที่คุณจะได้มีประสบการณ์ร่วมกับพระเจ้าในชีวิตนิรันดร์

คริสตจักรจะไม่เป็นแค่ความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์กับพระเจ้าเท่านั้น แต่จะได้รับการทำให้สมบูรณ์อีกด้วย คำจำกัดความของ 'เจ้าสาว' นี้คือ งดงามตระการ: 'นครนั้นเต็มไปด้วยพระสิริของพระเจ้า ใสสว่างเหมือนอย่างอัญมณี เหมือนอย่างแจสเพอร์ที่ใสดังแก้วผลึก' (ข้อ 11)

นี่คือสถานที่แห่งคริสตจักรที่มีความสมบูรณ์ ('ทูตสวรรค์สิบสององค์') ที่มีรากมาจากในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ('อิสราเอลสิบสอง', ข้อ 12-14) นครที่เป็นจตุรัสอย่างสมบูรณ์ (ข้อ 15-16) งดงาม สงบสุข และปลอดภัยโดยสมบูรณ์ (ข้อ 17-21)

มี 6 สิ่งที่น่าสังเกตว่าจะหายไป คือ

  1. ความทุกข์ยาก
    พระเจ้าจะทรงอยู่กับคุณและจะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากดวงตาของคุณ (ข้อ 3ข-4ก) จะไม่มีความทุกข์ยาก ความเจ็บป่วย และความเศร้าหมอง

  2. ความตาย
    จะไม่มีความตาย หรือการคร่ำครวญ หรือการร้องไห้ หรือความเจ็บปวด (ข้อ 4ข) จะไม่มีโรงพยาบาล ไม่มีไม้เท้า ไม่มีงานศพและหลุมฝังศพ

  3. พระวิหาร
    ไม่มีสัญลักษณ์ของพระวิหาร 'เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าทรงฤทธานุภาพสูงสุด และพระเมษโปดกเป็นพระวิหารในนครนั้น' (ข้อ 22)

  4. ดวงอาทิตย์
    ที่นี่ไม่ต้องการแสงสว่างจากดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ 'เพราะว่าพระสิริของพระเจ้าเป็นแสงสว่างของนครนั้น' (ข้อ 23) ทุกชนชาติที่นี่จะเดินด้วยแสงสว่างและเหล่ากษัตริย์ของโลกจะนำความงามมาสู่นครนี้

  5. กลางคืน
    ไม่มีกลางคืน 'ประตูต่าง ๆ ของนครจะไม่ปิดในเวลากลางวัน และจะไม่มีเวลากลางคืนในนั้น' (ข้อ 25)

  6. สิ่งที่ไม่บริสุทธิ์
    บุคคลผู้เลือกที่จะใช้ชีวิตโดยการทำลายผู้อื่นจะไม่มีส่วนในมรดกนี้ (ข้อ 7-8) 'ไม่มีสิ่งใดที่เป็นมลทิน หรือคนใดที่ประพฤติอย่างน่าสะอิดสะเอียน หรือประพฤติการหลอกลวงจะเข้าไปในนครนั้นได้ นอกจากพวกที่มีชื่อจดไว้ในหนังสือชีวิตของพระเมษโปดกเท่านั้น' (ข้อ 27) ไม่มีสิ่งใดที่ถูกทำลายลงโดยความบาป มันจะเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ

ตอนนี้คุณกำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากอยู่หรือไม่? วันหนึ่งปัญหาของคุณจะมาถึงจุดจบ ในระหว่างนี้ พระเจ้าทรงอยู่กับคุณและจะให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติของอนาคต นั่นก็คือ พระกำลังของพระองค์ในวันนี้ และความหวังสำหรับวันพรุ่งนี้

ความหวังนี้เป็นการปลอบประโลมและเสริมกำลังแก่ผู้ที่อยู่ในช่วงเวลาแห่งความทุกข์และความยากลำบากในปัจจุบัน (เช่น โรม 8:18) และแรงบันดาลใจในการที่จะดำเนินชีวิตในความบริสุทธิ์ด้วยความคาดหวังในสิ่งที่กำลังจะมาถึง (เช่น 1 ยอห์น 2:28)

นักบุญออกัสตินอธิบายว่าคุณควรตอบสนองต่อความหวังเรื่องอนาคตนี้อย่างไร: 'ผู้ที่รักในการเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ใช่คนที่เชื่อว่ายังอีกไกล หรือคนที่กล่าวว่าใกล้เข้ามาแล้ว แต่คือผู้ที่ไม่ว่าจะอีกไกลหรือใกล้ยังคงรอด้วยความเชื่ออย่างจริงใจ ความหวังที่ไม่สั่นคลอน และความรักอันร้อนแรง'

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณสำหรับความหวังอันอัศจรรย์สำหรับอนาคต ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอคอยด้วยความเชื่ออย่างจริงใจ ความหวังที่ไม่สั่นคลอน และความรักอันร้อนแรง

พันธสัญญาเดิม

เนหะมีย์ 11:22-12:47

 22ผู้ดูแลคนเลวีในเยรูซาเล็มคือ อุสซี บุตรบานี ผู้เป็นบุตรฮาชาบิยาห์ ผู้เป็นบุตรมัทธานิยาห์ ผู้เป็นบุตรมีคาแห่งพงศ์พันธุ์อาสาฟ นักร้องดูแลการงานพระนิเวศของพระเจ้า 23เพราะมีพระบัญชาจากกษัตริย์ถึงเรื่องเขา และมีของปันส่วนที่ได้ตกลงกันไว้สำหรับนักร้อง ตามที่ต้องการทุกๆ วัน 24และเปธาหิยาห์บุตรเมเชซาเบล พงศ์พันธุ์เศ-ราห์ บุตรยูดาห์ เป็นสนองโอษฐ์ของกษัตริย์ในเรื่องกิจการต่างๆ อันเกี่ยวกับประชาชน
 25ส่วนที่ชนบทและไร่นาของชนบทเหล่านั้น ประชาชนพวกยูดาห์บางคนอาศัยอยู่ในคีริยาทอารบา และชนบทของเมืองนั้น และในดีโบนกับชนบทของเมืองนั้น และในเยขับเซเอลกับชนบทของเมืองนั้น 26และในเยชูอา กับในโมลาดาห์ และเบธเปเลท 27ในฮาซารชูอาล ในเบเออร์เชบากับชนบทของเมืองนั้น 28ในศิกลาก ในเมโคนาห์กับชนบทของเมืองนั้น 29ในเอนริมโมน ในโศราห์ ในยารมูท 30ศาโนอาห์ อดุลลัมและชนบทของเมืองนั้น ลาคีชและไร่นาของเมืองนั้น อาเซคาห์กับชนบทของเมืองนั้น เขาจึงตั้งค่ายจากเบเออร์เชบาถึงหุบเขาฮินโนม 31ประชาชนเบนยามินอยู่ต่อจากเกบาไปด้วยที่มิคมาช ที่อัยยา เบธเอลและชนบทของเมืองนั้น 32ที่อานาโธท โนบ อานานิยาห์ 33ฮาโซร์ รามา กิททาอิม 34ฮาดิด เสโบอิม เนบัลลัท 35โลด และโอโน หุบเขาของพวกช่างฝีมือ 36และบางส่วนของคนเลวีในยูดาห์ก็สมทบเข้ากับเบนยามิน

เนหะมีย์ 12

บรรดาปุโรหิตและคนเลวี

 1ต่อไปนี้เป็นปุโรหิต และคนเลวีที่ขึ้นมากับเศรุบบาเบล บุตรเชอัลทิเอลและกับเยชูอา คือเสไรยาห์ เยเรมีย์ เอสรา 2อามาริยาห์ มัลลูค ฮัทธัช 3เชคานิยาห์ เรฮูม เมเรโมท 4อิดโด กินเนธอย อาบียาห์ 5มิยามิน มาอาดียาห์ บิลกาห์ 6เชไมยาห์ โยยาริบ เยดายาห์ 7สัลลู อาโมค ฮิลคียาห์ เยดายาห์ คนเหล่านี้เป็นหัวหน้าของปุโรหิตและพี่น้องของเขาในสมัยของเยชูอา
 8คนเลวี คือ เยชูอา บินนุย ขัดมีเอล เชเรบิยาห์ ยูดาห์ และมัทธานิยาห์ ผู้ซึ่งดูแลบทเพลงขอบพระคุณพร้อมกับพี่น้องของเขา 9และบัคบูคิยาห์ กับอุนโนพี่น้องของเขา ยืนอยู่ตรงกันข้ามในการปรนนิบัติ 10และเยชูอา เป็นบิดาของโยยาคิม โยยาคิมเป็นบิดาของเอลียาชีบ เอลียาชีบเป็นบิดาของโยยาดา 11โยยาดาเป็นบิดาของโยนาธาน และโยนาธานเป็นบิดาของยาดดูวา
 12และในสมัยของโยยาคิม มีปุโรหิตผู้เป็นหัวหน้าตระกูลได้แก่ ตระกูลเสไรยาห์คือ เมรายาห์ ตระกูลเยเรมีย์คือ ฮานานิยาห์ 13ตระกูลเอสราคือ เมชุลลาม ตระกูลอามาริยาห์คือ เยโฮฮานัน 14ตระกูลมัลลูคีคือ โยนาธาน ตระกูลเชบานิยาห์คือ โยเซฟ 15ตระกูลฮาริมคือ อัดนา ตระกูลเมราโยทคือ เฮลคาย 16ตระกูลอิดโดคือ เศคาริยาห์ ตระกูลกินเนโธนคือ เมชุลลาม 17ตระกูลอาบียาห์คือ ศิครี ตระกูลมินยามิน ตระกูลโมอัดยาห์คือ ปิลทัย 18ตระกูลบิลกาห์คือ ชัมมุวา ตระกูลเชไมยาห์คือ เยโฮนาธัน 19และตระกูลโยยาริบคือ มัทเธนัย ตระกูลเยดายาห์คือ อุสซี 20ตระกูลศัลลัยคือ คาลลัย ตระกูลอาโมคคือ เอเบอร์ 21ตระกูลฮิลคียาห์คือ ฮาชาบิยาห์ ตระกูลเยดายาห์คือ เนธันเอล
 22ส่วนคนเลวีในสมัยของเอลียาชีบ โยยาดา โยฮานัน และยาดดูวา ชื่อหัวหน้าของตระกูลมีบันทึกไว้ทั้งบรรดาปุโรหิตจนถึงรัชสมัยของดาริอัสคนเปอร์เซีย 23พงศ์พันธุ์เลวี หัวหน้าของตระกูลมีบันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดาร จนสมัยของโยฮานัน บุตรเอลียาชีบ 24และหัวหน้าของคนเลวีคือ ฮาชาบิยาห์ เชเรบิยาห์ และเยชูอาบุตรขัดมีเอล กับญาติพี่น้องของเขาที่ยืนอยู่ตรงข้ามกันที่จะสรรเสริญ และขอบพระคุณ ตามบัญญัติของดาวิดคนของพระเจ้า ผลัดเปลี่ยนกันไป 25มัทธานิยาห์ บัคบูคิยาห์ โอบาดีห์ เมชุลลาม ทัลโมน และอักขูบ เป็นคนเฝ้าประตู ยืนเฝ้าอยู่ที่โรงพัสดุของประตู 26คนเหล่านี้อยู่ในสมัยของโยยาคิม บุตรเยชูอา ผู้เป็นบุตรโยซาดัก และในสมัยของเนหะมีย์ผู้ว่าราชการ กับในสมัยของเอสราปุโรหิต และธรรมาจารย์

การมอบถวายกำแพงเมือง

 27ในการทำพิธีมอบถวายกำแพงเยรูซาเล็ม พวกเขาได้แสวงหาบรรดาคนเลวีตามที่ของเขาทั่วทุกแห่ง เพื่อจะนำเขามาที่เยรูซาเล็ม เพื่อฉลองมอบถวายด้วยความยินดี ด้วยการขอบพระคุณ และด้วยการร้องเพลง ด้วยฉาบ พิณใหญ่ และพิณเขาคู่ 28พงศ์พันธุ์พวกนักร้องได้รวมกันมาจากมณฑล รอบเยรูซาเล็ม และจากชนบทของชาวเนโทฟาห์ 29ทั้งมาจากเบธกิลกาล และจากเขตเกบา และอัสมาเวท เพราะบรรดานักร้องได้สร้างชนบทของตนรอบเยรูซาเล็ม 30บรรดาปุโรหิตและคนเลวีได้ชำระตนให้บริสุทธิ์ และเขาทั้งหลายได้ชำระประชาชน และประตูเมืองกับกำแพงให้บริสุทธิ์
 31แล้วข้าพเจ้าได้นำเจ้านายแห่งยูดาห์ขึ้นบนกำแพง และแต่งตั้งให้คณะใหญ่สองคณะเป็นผู้กล่าวขอบพระคุณและเดินเป็นขบวนแห่ คณะหนึ่งไปทางขวาขึ้นไปบนกำแพงจนถึงประตูกองขยะ 32และถัดเขาไปมี โฮชายาห์ และเจ้านายแห่งยูดาห์ครึ่งหนึ่ง 33กับอาซาริยาห์ เอสรา เมชุลลาม 34ยูดาห์ เบนยามิน เชไมยาห์ และเยเรมีย์ 35และพวกปุโรหิตบางคนที่มีแตร คือ เศคาริยาห์ บุตรโยนาธาน ผู้เป็นบุตรเชไมยาห์ ผู้เป็นบุตรมัทธานิยาห์ ผู้เป็นบุตรมีคายาห์ ผู้เป็นบุตรศักเกอร์ ผู้เป็นบุตรอาสาฟ 36กับญาติพี่น้องของเขา คือ เชไมยาห์ อาซาเรล มิลาลัย กิลาลัย มาอัย เนธันเอลและยูดาห์ ฮานานี พร้อมกับเครื่องดนตรีของดาวิดคนของพระเจ้า และเอสราธรรมาจารย์ได้เดินนำหน้าเขา 37ที่ประตูน้ำพุ เขาทั้งหลายเดินตรงไปขึ้นบันไดของนครดาวิด ที่ทางขึ้นกำแพง เหนือพระราชวังของดาวิดถึงประตูน้ำทางทิศตะวันออก
 38อีกคณะหนึ่งที่กล่าวคำขอบพระคุณเดินไปทางซ้าย และข้าพเจ้าตามเขาไปพร้อมกับประชาชนครึ่งหนึ่ง บนกำแพงเหนือหอคอยเตาไฟ ถึงกำแพงกว้าง 39และเหนือประตูเอฟราอิมและทางประตูเก่า และทางประตูปลาและหอคอยฮานันเอล และหอคอยศตพลถึงประตูแกะ และเขามาหยุดอยู่ที่ประตูยาม 40คณะทั้งสองผู้กล่าวคำขอบพระคุณได้มายืนอยู่ที่พระนิเวศของพระเจ้า ทั้งข้าพเจ้าและเจ้าหน้าที่ครึ่งหนึ่งอยู่กับข้าพเจ้า 41กับปุโรหิตที่ถือแตร คือ เอลียาคิม มาอาเสยาห์ มินยามิน มีคายาห์ เอลีโอนัย เศคาริยาห์ กับฮานันยาห์ 42และมาอาเสยาห์ เชไมยาห์ เอเลอาซาร์ อุสซี เยโฮฮานัน มัลคิยาห์ เอลามและเอเซอร์ และบรรดานักร้องได้ร้องเพลง มี ยิสรายาห์เป็นหัวหน้าของเขา 43และเขาทั้งหลายได้ถวายเครื่องสัตวบูชาใหญ่โตในวันนั้น และเปรมปรีดิ์เพราะพระเจ้าทรงกระทำให้เขาเปรมปรีดิ์ด้วยความชื่นบานใหญ่ยิ่ง พวกผู้หญิงและเด็กๆ ก็เปรมปรีดิ์ด้วย และความชื่นบานของเยรูซาเล็มก็ได้ยินไปไกล

ความรับผิดชอบในพระวิหาร

 44ในวันนั้น เขาแต่งตั้งคนให้ดูแลห้องสำหรับพัสดุ เครื่องถวาย ผลไม้รุ่นแรก ทศางค์ ให้รวบรวมสิ่งซึ่งกำหนดไว้ในกฎหมายสำหรับปุโรหิตและคนเลวีเข้ามาไว้ในนั้น ตามไร่นาในเมืองเหล่านั้น เพราะคนยูดาห์เปรมปรีดิ์ด้วยเรื่องบรรดาปุโรหิต และคนเลวีผู้ปรนนิบัติอยู่นั้น 45และเขาทั้งหลายได้ทำการปรนนิบัติพระเจ้าของเขา และทำการปรนนิบัติเกี่ยวกับการชำระให้บริสุทธิ์ เช่นเดียวกับที่พวกนักร้อง และพวกเฝ้าประตูได้ทำตามพระบัญชาของดาวิดและของซาโลมอนราชโอรสของพระองค์ 46เพราะในสมัยดาวิดและอาสาฟ ในดึกดำบรรพ์นั้นมีหัวหน้าพวกนักร้องและมีบทเพลงสรรเสริญ และบทเพลงขอบพระคุณพระเจ้า 47และอิสราเอลทั้งปวงในสมัยของเศรุบบาเบลและในสมัยของเนหะมีย์ ได้ให้ปันส่วนตามต้องการทุกวันแก่นักร้องและคนเฝ้าประตู และเขาได้กันส่วนของคนเลวีไว้ต่างหาก และคนเลวีได้กันส่วนของพงศ์พันธุ์อาโรนไว้ต่างหาก

อรรถาธิบาย

เจ้าสาวที่ถูกคาดการณ์ไว้แล้ว

การเฉลิมฉลองนั้นสำคัญ วันหนึ่งจะมีการเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ตลอดกาล เมื่อคริสตจักรรวมตัวกัน การเฉลิมฉลองของเราจะเป็นการคาดการณ์ถึงงานฉลองครั้งยิ่งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง สิ่งเหล่านี้ถูกทำนายไว้ในพันธสัญญาเดิม

กรุงเยรูซาเล็มเฝ้ารอคอย และคาดการณ์สิ่งที่กำลังจะมา กรุงเยรูซาเล็มใหม่คือคริสตจักร เต็มไปด้วยสง่าราศีและชัยชนะ 'เจ้าสาว มเหสีแห่งพระเมษโปดก' (วิวรณ์ 21:9-10)

เยรูซาเล็มได้รับความสนใจอย่างมากในพันธสัญญาเดิม นี่คือสิ่งที่บอกว่า ทำไมจึงมีความชื่นชมยินดี และการเฉลิมฉลองเมื่อกรุงเยรูซาเล็มถูกสร้างใหม่อีกครั้ง การเฉลิมฉลองใหญ่เกิดขึ้นด้วยการโมทนาสรรเสริญและการร้องเพลง ด้วยฉาบ พิณใหญ่ และพิณเขาคู่ (เนหะมีย์ 12:27, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ความชื่นบานของกรุงเยรูซาเลมใหม่ยังถูกคาดคะเนไว้ในการนมัสการที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งนำโดยคณะนักร้องประสานเสียงคณะใหญ่สองคณะ(เนหะมีย์ 12:31 เป็นต้นไป) 'การเฉลิมฉลองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เพราะพระเจ้าทรงเติมเต็มพวกเขาด้วยความชื่นชมยินดีอย่างยิ่ง พวกผู้หญิงและเด็ก ๆ ป่าวร้องด้วยเสียงแห่งความสุขร่วมกับทุกคนที่เหลือ เสียงชัยชนะแห่งกรุงเยรูซาเล็มนั้นดังระบือไกล' (ข้อ 43, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณสำหรับความชื่นชมยินดีอย่างยิ่ง การนมัสการ และการเฉลิมฉลอง ที่เราจะมีตลอดนิจนิรันดร์ในกรุงเยรูซาเล็มใหม่ ที่จะลอยลงมาจากสวรรค์ของพระเจ้า ซึ่งเตรียมพร้อมดั่งเจ้าสาวที่สวมอาภรณ์อย่างงดงามเพื่อสามีของเธอ (วิวรณ์ 21:2)

เพิ่มเติมโดยพิพพา

สุภาษิต 31:23

'ภรรยาที่เลิศประเสริฐ' ยุ่งอยู่กับการทำทุกอย่าง ซึ่งฉันเองรู้สึกไม่ค่อยประทับใจกับการที่สามีของเธอ 'เขานั่งอยู่ในหมู่พวกผู้ใหญ่ของแผ่นดิน' มันดูเหมือนเขาแค่เอาแต่พูดเท่านั้น แต่ไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย!

reader

App

Download The Bible with Nicky and Pippa Gumbel app for iOS or Android devices and read along each day.

reader

อีเมล

Sign up now to receive The Bible with Nicky and Pippa Gumbel in your inbox each morning. You’ll get one email each day.

reader

เว็บไซต์

Subscribe and listen to The Bible with Nicky and Pippa Gumbel delivered to your favourite podcast app everyday.

การอ้างอิง

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

เว็บไซต์นี้จัดเก็บข้อมูล เช่น คุกกี้ เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นและการวิเคราะห์ที่จำเป็นเท่านั้น ดูเพิ่มเติม